ความสุขที่สร้างเอง

วันนี้ ไม่ได้ออกเดิน สภาพอากาศไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ทำไปทำมาดูเวลา เกือบ 8 โมงเช้ากว่าแล้วทั้งที่ไม่ได้เริ่มลงมือทำอะไรเลย เวลามันผ่านไปเร็วจริง

วันนี้ขึ้นหัวข้อว่า ความสุขที่สร้างเอง

จริงๆๆ แล้ว ไม่ต้องอ่านบทความให้มากหรอก แค่ดูในภาพหัวข้อบทความแล้วจะเห็นว่า ความสุขที่สร้างเอง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

โดยปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยมีฐานะ เท่าไร บ้านเรือนเลยเป็นบ้านหลังเล็ก แต่ วางแผนไว้แล้วว่า แม้จะเป็นบ้านหลังเล็ก แต่จะสร้างมุมต่างๆๆ ของที่บ้าน เพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น การอ่านหนังสือ การเขียนเว็บไซต์ การทำกิจกรรมของตนเอง ที่สามารถอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองได้อย่างมีความสุข

โจทย์ใหญ่ ที่สุดในการสร้างบ้าน คือ .. ทำอย่างไร เมื่อเราอยู่ภายในบ้านแล้วเรามีกิจกรรมให้เราสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน

ในความเป็นจริงแล้ว หากเรามีงบ และเราไม่เสียดายทรัพยากรของโลก ที่กำลังมีปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน เราไม่จำเป็นต้องวางแผนขนาดนั้นก็ได้ แค่สร้างห้องสักห้อง แล้วติดแอร์ไว้ ถึงตอนนั้น สภาพอากาศอย่างไรมันจะไม่มีผลกระทบกับเรา แต่.. ในความรู้สึกของตนเอง หากทำเช่นนั้น มันเป็นสิ่งที่เอาเปรียบสังคม และคนรุ่นหลังมากเกินไป

การเปิดแอร์ แต่ละครั้งนั้นหมายถึงว่า ต้องใช้พลังงาน  มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องเสียไป เช่นเงิน แต่ภาพรวมคือการผลิตไฟฟ้า ที่ต้องใช้ทรัพยากรในโลกใบนี้ มาสร้างมันขึ้นมา  ถ้าเราทุกคนคิดว่าไม่เป็นไร ไม่นานโลกใบนี้มีปัญหาแน่ๆๆ

เลยตัดสินใจ ใช้แอร์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับตัวเองให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้

เคยได้ยินคำพูดของใครคนหนึ่ง จำไม่ได้แล้วเขาพูดว่า มนุษย์สมัยก่อนเขาปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ แต่ มนุษย์สมัยปัจจุบัน ใช้วิธีการบังคับธรรมชาติ เพื่อให้ชีวิตเราอยู่สบาย

เมื่อเราไม่ปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ แต่เราพยายามบังคับธรรมชาติ สิ่งที่ตามมาคือปัญหามากมาย อย่างเช่นตอนนี้ คือเดือนมกราคม 2566 เป็นเวลากลางเดือนแล้ว แต่ฝนเริ่มมาอีกแล้ว และตกทั้งปี ของปีที่ผ่านมา นั้นคือเราพยายามบังคับธรรมชาติ จนมันแปรเปลี่ยนไปหมด ผลกระทบคือเราเอง

ที่เขียนมาทั้งหมดมันเป็นความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้โลกสวยแต่อย่างใด เพียงแต่มาคิดว่าเราจะบังคับธรรมชาติหรือพยายามสร้างในสิ่งที่ฝืนกับธรรมชาติ ทำไม เราไม่ปรับตัวเข้ากับมัน

นั้นคือที่มาของบทความเรื่องการสร้างความสุขให้กับตัวเอง

คือการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ แทนที่พยายามสู้กับมันหรือหาสิ่งอื่นมาต่อต้านมัน

เริ่มจากการสร้างบ้าน สร้างพื้นที่สำหรับระบายอากาศได้ดี  เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงานในตอนเช้าและตอนเย็น เพราะช่วงนั้นบนระเบียงบ้านมันอยู่ที่สูงลมพัดเย็นสบาย

แต่ พออากาศเริ่มร้อน หรือร้อนแล้ว หาอุปกรณ์อย่างอื่น โดยการเคลื่อนตัวเองไปนั่งที่ขนำภายใต้ร่มไม้ของต้นมะไฟ ขนาดใหญ่ (ตอนนี้ น่าจะหายาก) นั้นคือการอยู่กับธรรมชาติ

แต่ หากฝนตกหนัก หรือบรรยากาศมีความชื้นมากเกินไป จะเคลื่อนตัวเองไปอยู่บ้านหลังข้างหน้า ซึ่งเป็นบ้านขนาดเล็ก สร้างสมัยสร้างตัวตนของตัวเองใหม่ ที่บางคนบอกว่าเสียดายพื้นที่ให้ทุบทิ้งเพื่อสร้างอย่างอื่น แต่…ไม่ทุบทิ้ง หากเราทุบทิ้ง มันคือการสูญเสียทรัพยากร แต่ในตอนนี้ หากทุบทิ้ง เมื่อฝนตกมากๆๆ หรือน้ำท่วม ปัญหาคือเราไม่มีที่สำหรับอยู่ในช่วงเวลานั้น

นับว่าเป็นความโชคดีที่เราเคารพความคิดของตัวเอง

นั้นก็เช่นกันคือความสุขที่เราสร้างขึ้นมาโดยเบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุด

เมื่อเรามีพื้นที่สำหรับสร้างกิจกรรมของเราเอง เรามีความสุขกับสิ่งที่เรามี มันคือความสุข มันก็สุขแล้ว

ส่วนมากคนเรามักจะอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่พอเราได้มาแล้ว มันก็เท่านั้นเอง เมื่อเท่านั้นเอง ก็พยายามจะหาสิ่งใหม่มาอีก เพราะยังไม่ได้ อยากได้ ดิ้นรนเพื่อที่จะหา เพื่อที่จะสร้างเพราะคิดว่า หากสามารถหามาได้ หรือสร้างได้แล้วมันคือความสุข แต่..ปัญหาใหญ่คือมันต้องดี และมีราคาแพงกว่าของเดิมที่เรามีอยู่

นั้นแหละคือปัญหา เราเริ่มจะเป็นทุกอีกแล้วเพราะอยากได้ ต้องดิ้นรนอีกแล้วเพื่อเอามาเป็นของตัวเอง สุดท้ายเมื่อได้มา มันก็แค่นั้นแหละ หรือไม่มันก็เท่านั้นแหละ ไม่นานมันกลายเป็นสิ่งธรรมดา

ปัญหาตามมาอีกคือ อยากได้สิ่งที่ดีกว่านั้น เหนือกว่านั้นอีก

สรุปสุดท้าย มันไม่สิ้นสุดในการวิ่งหาความสุขในสิ่งที่เราต้องการ

แต่ หากเราหยุด เรามองกลับไปในสิ่งที่เรามี จากสิ่งที่ธรรมดา แต่ให้เราคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ แค่นั้น เราพบว่า เรามีของพอแล้วสำหรับใช้ในการทำงานหรือการมีความความสุข เราก็มีความสุขทันที

เพราะฉะนั้น ให้เรามาปรับตัวเอง แล้วมองในสิ่งที่เรามี แม้จะเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า แต่หากใช้งานมันได้ไม่มีปัญหา มันมีความสุขในการใช้งานแล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนให้มากเพื่อหาตัวใหม่ เพราะเมื่อหาตัวใหม่ สุดท้ายมันกลับมาในแบบเดิม คือแค่นั้นแหละ ไม่นานมันตกรุ่นเหมือนตัวที่ผ่านมา

ทางแก้ หากตกรุ่น ปรับซอฟร์แวร์ให้มันรองรับ และใช้เท่าที่เราต้องการจะใช้ มันจะกลับมาใช้งานได้ปกติ

เมื่อเราคิดได้แบบนี้ ชีวิตเราไม่ต้องดิ้นรน เพื่อหาเงินซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่อีก

แค่นี้ เราก็มีความสุขแล้ว

นั้นคือส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขให้กับตัวเองในมุมมองของตัวเอง เน้นย้ำ………….ในมุมมองของตัวเอง แต่ยังเคารพความคิดของคนอื่นที่เข้ามาอ่าน แล้วเขาคิดต่างจากแนวคิดของตัวเอง

ว่าแล้ว ขอหยุดบทความแค่นี้ก่อน ค่อยว่ากันต่อ