ความนิ่ง
ความนิ่ง
มันเกิดความรู้สึกว่า หลังจากกลับจาก กทม.ความนิ่งเริ่มเข้ามาสู่ตัวเองอีกครั้ง มันเหมือนกับว่า มันได้หยุดอยู่กับตัวเอง หลุดพ้นจากโลกภายนอกที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง การดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นไปตามที่เราต้องการและกำหนดเอง ไม่ต้องมีกระแสจากภายนอกว่าจะต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้
ตื่นเช้าขึ้นมา ทำตามคำแนะนำของแพทย์ ดื่มน้ำ 2 แก้ว เสร็จแล้วล้างหน้าแปรงฟัน ออกเดิน ใช้เวลา 30 นาทีกว่า แล้วมานั่งอ่านหนังสืออาบแดดเพื่อรับวิตามิน D แล้วมานั่งทบทวน หาความนิ่งให้กับตัวเอง วิเคราะห์ตนเอง นิ่งแล้วคิดว่าที่ผ่านมา มักจะทำอะไรเร่งรีบ จนบางทีมันเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบแล้ว
ความเร่งรีบ มันก็ดี แต่ต้องเร่งรีบให้ตรงกับสิ่งที่ต้องเร่งรีบ ส่วนมากจากการวิเคราะห์ตัวเอง มักเร่งรีบเพื่อมาทำในจุดที่ให้ตัวเองสบาย เช่น การนอน การนั่งเฉยๆๆ วันนี้ เลยนิ่งแล้วคิดใหม่ทำใหม่อีกครั้ง
เช่นกัน วันนี้ ตอนเช้าเลยไม่มีเวลาเขียน Blog ต้องกลับมาเขียนตอนหัวค่ำอีกครั้งหลังจากที่กิจกรรมต่างๆๆ เริ่มเข้ามาอีกครั้งอย่างยาวเหยียด พร้อมกับความกังวลที่ปรากฏขึ้นในใจนิดๆๆ มีงานที่จะต้องไปพบแพทย์ เพื่อส่องกล้องดูระบบทางเดินอาหาร กับอีกอย่าง ที่ไม่ค่อยกังวลใจเท่าไร นั้นคือการอุลตร้าซาวน์เพื่อตรวจสภาพร่างกายในช่องท้อง
แต่มันแปลก พอความนิ่งบังเกิด รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันทุเลาลง ไม่คิดอะไรมาก ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ หากเราคิดเองล่วงหน้าไปเองมันปวดหัวเปล่าๆๆ ปล่อยให้กาลเวลามันเดินไป ค่อยว่ากันอีกทีเมื่อเจอกับเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆๆ
เท่าที่สำผัสมาหลังจากที่ออกข้างนอก แล้วกลับมายังบ้าน ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่มีผลดีกับตัวเอง มีข้อเปรียบเทียบให้คิด ได้มุมมองแนวคิดอะไรหลายๆๆ อย่าง
สิ่งแรกที่เห็นชัดที่สุดคือความรู้สึกพึงพอใจกับสถานะที่ตัวเองอยู่ เป็นอยู่ในตอนนี้ อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ชีวิต เราสามารถกำหนดเองได้ว่า วันนี้ เราจะนอน วันนี้ เราจะออกไปทำงาน วันนี้ เราคิดจะทำอะไร ได้ลงมือทำทันที
แต่ ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังทำไม่ได้ นั้นคือการจัดการกับเวลาว่า เราจะใช้เวลาในการทำ อย่างหนึ่งอย่างใด ก่อนหน้า หรือหลังดี มีงานค้าง และมีสิ่งที่คิดจะทำมาก แต่ไม่ได้ทำ มันแค่เป็นแปลน เป็นแนวทความคิด แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ
สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะเป็นจากร่างกายไม่พร้อม เนื่องจาก น่าจะเป็นเพราะเราจับอาการตัวเองมากเกินไป กับรอเพื่อให้ถึงวันที่ แพทย์นัดหมายเร็วๆๆ เพื่อดูผลว่าเป็นอย่างไรบ้าง
บางคนพูดว่า ไม่ต้องไม่ตรวจ แล้วเราจะไม่รับรู้อะไร อาจจะจริง แต่ในความคิดอีกมุมหนึ่ง เท่ากับว่าเรากำลังหนี เพื่อไม่อยากรับรู้ปัญหา แต่ หากเรากล้า ยอมลงทุนเงินเพื่อหาสาเหตุอย่างน้อยๆๆ มันสบายใจขึ้นไม่ต้องวิ่งหนี เพื่อไม่อยากรับรู้ในแต่ละวัน
วันนี้การเขียน น่าจะไม่ได้มากอีกวัน
editor's pick
latest video
news via inbox
ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร