มุมพักผ่อนและทำงาน
มุมพักผ่อนและทำงาน
ภารกิจ กำลังจะลุล่วงไปอีก 1 อย่าง หรือที่ชอบพูดว่า เฟส 2 เฟสแรกคือการทำครัว แม้จะมองในภาพอาจจะไม่สวย ไม่อลังการ แต่ในความรู้สึกของตัวเองรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มาก เหตุใด มันยิ่งใหญ่ เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างคือสร้างจากสองมือของตัวเอง ในขณะที่อากาศร้อน เครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม แต่สามารถทำด้วยตัวคนเดียว คิดคนเดียว วางแผนคนเดียว จนมันลุล่วง ตามเป้าหมายที่ต้องการและกำหนด แม้ว่ามันจะใช้เวลาค่อนข้างจะมากไปนิด
เป้าหมาย เฟส 2 นี้ คือเป็นที่พักผ่อนและที่ทำงาน ในช่วงหน้าฝน สำหรับหน้าร้อน น่าว่าไม่ผ่าน เพราะยังร้อน แม้ว่าจะมีลมพัดบ้างเป็นระยะ แต่ในความรู้สึกของตัวเองคิดว่า ยังไม่ผ่าน ความร้อนยังคงมี น่าจะเป็นเพราะหลังคาเป็นแบบโมเดล หรือที่บ้านเราเรียกว่า เพิงหมาแหงน เหตุน่าจะมาจาก มันมีพื้นที่ของหลังคาที่รับแสงแดดได้มากกว่า หลังคาทรงจั่ว คือรับเต็มๆๆ ตลอดทั้งวันไม่ว่าดวงอาทิตย์จะอยู่ทิศไหน
แต่หากเป็นทรงจั่ว บางทีทิศทางของบ้านหลังคาจะรับแสงไม่เท่ากันอย่างเช่นตอนเช้าอีกด้านหนึ่งรับ บ่ายอีกด้านหนึ่งรับแสงแดด แต่ต้องดูด้วยว่าเป็นบ้านแบบขวางตะวันหรือไม่ ด้วยเหตุที่จะทำเป็นที่พักผ่อนมันเป็นหลังคาแบบนั้น เลยติดร้อนไปนิด
ดังนั้น ในหน้าร้อน ขนำน้อยใต้ต้นไม้ น่ายังเป็นพระเอกอยู่ มันอยู่ใต้ต้นไม้ ลมพัดเย็นสบาย แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีกระแส หรือคำบ่น ของคนส่วนมากว่า ร้อน ร้อน พร้อมกับเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา แต่ สำหรับขนำน้อย ติดแอร์ธรรมชาติขนาดใหญ่ นอนเย็นสบายทั้งวัน แต่หากหน้าฝนต้องว่ากันอีกทีหนึ่ง
ร่มเงา จากต้นไม้ คือแอร์อย่างดี เท่านั้นยังไม่พอ ในขนำน้อยยังเพิ่มระดับการลดอุณหภูมิลงมา โดยสร้างหลังคาแบบจั่วอีกชั้น ในตอนแรก คิดว่า หากเอาไม่อยู่ จะสร้างเพดานด้วย แต่ผลปรากฏออกมาแล้วจากการทดสอบในปีนี้ ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ปรากฏว่า ผ่าน ไม่จำเป็นต้องสร้างเพดาน ขนำน้อยยังเอาอยู่ ไม่ว่าจะร้อนขนาดใหน
สิ่งที่น่าภูมิใจอีกเช่นกัน คือขนำน้อย สร้างด้วยตนเองเช่นกัน สองมือของตนเอง เดือนกว่า ๆๆ ที่สร้าง เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้มาก แต่ได้ถ่ายรูปไว้แล้ว ว่างๆๆ อัพเดท ว่าเรื่องขนำน้อยอีกสักวัน
มาว่า กันเรื่อง เฟส 2 ต่อ เป้าหมายของเฟส 2 อย่างที่บอก พื้นที่มันจะกว้างกว่าขนำ จากการคำนวนและวิเคราะห์ เกี่ยวกับอากาศบ้านเรา เขาเรียกว่า ฝนแปดแดดสี่ นั้นหมายความว่า ฝนจะตก 8 เดือน มีแดดออก 4 เดือน รวมกันแล้วโดยไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข เป็น 12 เดือน หรือที่เราเรียกว่า 1 ปี
ขนำน้อยใต้ต้นไฟ รับผิดชอบในช่วงหน้าร้อน 4 เดือน แต่ พอเข้าหน้าฝน ขนำน้อยไม่เหมาะสมสำหรับหน้าฝน เหตุผลแรกสุด คือความชื้น หากฝนตกมาก ฝนสาดด้วย ฝนสาดไม่เท่าไร แต่ความชื้น สร้างปัญหาให้หลายอย่าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ต่างๆๆ ยิ่งส่วนไหนตั้งไว้ไม่ได้ใช้ ปัญหาจะตามมาทันที
จากเหตุผลและหลักการณ์ รวมทั้งประสบการณ์ที่เจอมาอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะไม่มีผลการวิจัยที่มีการรับรอง สรุปได้ว่า ขนำไม่เหมาะสมสำหรับหน้าฝน ทางแก้คือไปบ้านหลังข้างหน้าเพื่อทำงาน
แต่….. หลังข้างหน้า แม้ว่าหน้าฝนจะสบาย อบอุ่น แต่…อีกครั้ง มันเป็นบ้านปูน ผนังล้อมรอบเป็นปูน ปัญหาที่ตามมา คือไม่สบายหู สบายตา (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาต้องพูดว่าไม่สบายหู สบายตา) เอาเป็นว่า เมื่อนั่งทำงานในบ้านที่เป็นปูน ในความรู้สึกของตัวเอง มันดูแล้ว ไม่ได้อบอุ่นจริงๆๆ ความรู้สึกมันแข็งกระด้าง ไม่อบอุ่นเหมือนสิ่งที่ทำจากไม้ ความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มี และไม่ได้กลิ่นของธรรมชาติเท่าไร
เลยวางแผน และหาจังหวะ เพื่อทำสถานที่ทำงานและพักผ่อนในช่วงหน้าฝน
ด้วยงบประมาณ และเวลาในการดำเนินการ ที่ยังไม่พร้อมและอีกครั้ง ยังหาจังหวะไม่ได้ กับเหตุผลอีกอย่าง ในห้วงหรือช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาฝนมาเยี่ยมเยือนตลอด จนคำพูดที่ว่า ฝนแปดแดดสี่ แทบจะใช้ไม่ได้ มันกลายเป็น ฝนสิบสองแทน ไม่มีแดด หากสร้างน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับฝน เพราะต้องรื้อหลังเก่าออก แล้วสร้างหลังคาใหม่
ปีนี้ ด้วยสภาพอากาศเป็นใจ ว่าแล้ว ลงมือทำเลย
ผลออกมาได้เป็นที่น่าภูมิใจ อย่างมาก
มันพิสูจน์ให้เห็นชัดเลยว่า หากเราลงมือทำ แล้วเราไม่ยอมหยุด มันต้องเสร็จจนได้ แต่หากเราลงมือทำแล้วเรายอมแพ้ ไม่มีทางจะสำเร็จได้
การลงมือทำคือสิ่งที่ดีที่สุด
สิ่งที่ช่วยได้มากในการทำคือ การคิดในแต่ละวัน อย่าไปคิดว่าพอลงมือทำแล้วมันยุ่งยาก อย่าไปคิด แค่ลงมือทำ แล้วก็ทำ หากเราคิดว่าทำแล้วมันยุ่งยากมันเหนื่อย มันจะพาลเหนื่อยมากกว่าเดิมเสียอีก แล้วมันพาลทำให้เราไม่อยากทำ สุดท้ายผลัดวันประกันพรุ่ง เป็นอันไม่ต้องทำกันพอพ
วันนี้ นั่งถ่ายรูป แล้วมองไปยังในรูปที่ถ่าย ปรากฏว่า ออกมาไม่สวยเท่าที่ควร ทอเช้าน่าว่าต้องแก้ไขอีกครั้ง
มองในภาพ
น่าจะต้องรื้อ รั้วระเบียงใหม่ เพราะว่าไม่สวย มันยังดูว่างเปล่ามากเกินไป ครั้งแรกเสียดายไม้ แต่ เพื่อความสวยงาม น่าว่าจะเสียดายไม่ได้แล้ว ต้องเพิ่มไม้ลงไปให้มากกว่านี้ เพื่อให้ดูมันสวยงาม
ทอเช้าหรือว่าพรุ่งนี้ น่าต้องปรับปรุงแล้วอัพเดทอีกครั้ง เพื่อให้มันออกมาสวยงามตามที่เราต้องการ
นี่แหละคือการทำงาน และการลงมือทำ จากประสบการณ์การทำเฟส 2 และครัว สิ่งที่งานสอนตลอดและสมองค่อยปรับซึมซับ นั้นคือ
ไม่ว่า เราจะทำอะไร ทำประจำ ย้ำทำ ทำแล้วคิด ไม่นานเราจะเข้าใจ และมันจะสอนเราให้เราสามารถทำงานได้เร็วขึ้น และออกมาดีขึ้น แม้ว่า บางครั้งจะพลาดหลายอย่าง เช่นออกมาแล้วดูไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำพลาดนั้นแหละคือครูที่สอนเรา ให้เราแก้ไข ทำใหม่ สุดท้ายมันจะออกมาได้ตามที่เราต้องการ
ในงานชิ้นเดียวกัน หรืองานลักษณะเดียวกัน ในการทำในครั้งต่อมา หรือต่อไป เราแทบไม่ต้องคิดหรือวางแผน สมองของเรา มันจะเป็นคอยบอกให้เราทำไปแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องนั่งคิดหรือนั่งวิเคราะห์อีกต่อไป เพราะสมองมันชินและจำได้แล้ว หากเป็นภายนอก เขาเรียกว่า สิ่งไหนที่เราทำประจำมันคือนิสัย การฝึกต้วเอง หากเราต้องการเปลี่ยนนิสัย เราต้องฝึกหรือย้ำคิดย้ำทำ หรือทำบ่อยๆๆ จากที่เราทำบ่อย และทำประจำจนมันเรื่องปกติ สิ่งที่จะตามมาคือ ไม่นานมันจะเป็นนิสัยใหม่ของเราเอง
น่าจะแค่นี้ ค่อยว่ากันต่อ ทอเช้า
editor's pick
latest video
news via inbox
ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร