พรุ่งนี้ไปฝังรากฟันเทียม
พรุ่งนี้ไปฝังรากฟันเทียม
รู้สึกกังวลนิด กลัวเจ็บ แต่เพื่อสุขภาพตัวเอง ต้องว่ากันไป
ทอเช้าน่าจะออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อให้การเดินทางจะได้ไม่ต้องรีบเกินไป เพื่อให้การเดินทางคือการท่องเที่ยว ได้ปล่อยว่างขับรถไปเรื่อยๆๆ มองสองทางข้าง เห็นชีวิตและการกระโดดโลดเต้นของตัวละคร หรือคนเรานั้นแหละ ของแต่ละพื้นที่แต่ละชุมชน
การเดินทาง หากเราตั้งเป้าหมายหมายไว้แล้ว รอเวลาแล้วใช้เวลาทั้งหมดในการขับรถเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายเลย ชีวิต มันช่างมีแต่ความเร่งรีบเปล่า สู้ ตื่นนอนให้เช้ากว่าเดิมสักนิด เผื่อเวลาไว้สัก ชม. แล้วออกเดินทาง พร้อมกับชมบรรยายกาศ ชมนกชมไม้ แวะกินกาแฟ นั่งมองผู้คน ทำอะไรที่เราชอบดู ดีกว่า
วกกลับมาปัจจุบันดีกว่า วันนี้ ได้ไอ้ลาด มาตัวหนึ่ง เป็นหมาหรือสุนัขพันธ์ไทย ตัวดำสนิท แต่มีขนสีขาวแซมที่หน้าอกนิดๆ
นั่งอ่านหนังสือช่วงประมาณ 5 โมงเย็น อากาศดี ฝนทำท่าจะตก เข้าสวนแล้วไม่สะดวก เจอหนังสือถูกใจเล่มหนึ่ง เอามาอ่าน ระหว่างอ่านคนที่บ้านกลับจากตลาด พร้อมกับถุงหิ้ว ภายในถุงหิ้วมีขนสีดำ สงสัยว่าอะไร สักพัก คนที่บ้านพามาให้บอกว่า นี่ไงสิ่งที่ต้องการหามาให้แล้ว
พอเข้าดู ออ เป็นลูกหมาตัวเล็ก
เคยพูดไว้นานแล้ว กับพยายามหามานานแล้ว ว่าจะหาหมาสักตัวพาไปเข้าสวน แม้ว่าจะมีอยู่แล้ว แต่มันตัวใหญ่แล้วฝึกลำบาก สู้หาหมาตัวเล็กมาฝึกไว้ดีกว่า
วันนี้ เลยได้มาหนึ่งตัว ถามคนที่บ้านว่าได้จากไหน คนที่บ้านบอกว่าได้จากตลาด คนในตลาดเห็นเที่ยวในตลาดไม่รู้ว่ามาจากไหน เขาบอกว่าสงสารให้ช่วยพามาเลี้ยง
คนที่บ้าน เอาใส่ถุงหิ้วพากลับบ้าน จากนั้นได้นั่งประชุมกันสองคนว่า จะตั้งชื่อมันอย่างไรดี ยังนึกไม่ออก จังหวะนั้นเองคนที่บ้านถ่ายรูปส่งไปให้ลูกดู ลูกบอกว่า จากแหล่งที่มันมาคือตลาด ให้ตั้งชื่อเรียกมันว่า ไอ้ตลาด ก็แล้วกัน แต่ย่อสั้นตามประสาคนปักต์ใต้ว่า ไอ้ลาด แทน
นั้นคืออีกชีวิตหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในบ้าน แม้มันจะเป็นสัตว์ แต่ พอมันเข้ามา มันรู้ว่านี่คือบ้านใหม่ของมันมันพร้อมจะปกป้องตลอดเวลา แม้ตัวจะเล็กนิดเดียว จากการทดสอบเดินไปมืด ๆๆ เพื่อไม่ให้ มันไม่รู้ว่าเป็นใคร พอมันเห็นเงาตะคุ่มๆ แต่มันยืนจังก้า เห่าแบบเอาจริง นั้นแหละคือไอ้ลาดที่จะเล่าให้ฟังวันนี้
และจากบทความที่เขียนเมื่อวานเรื่องการปลูกต้นไม้โดยตัดท้ายถุงดำออกอย่างเดียว และปลูกพร้อมถุงดำที่ตัดถุง ตามที่กูรูแนะนำ วันนี้ เจออีก
ไปเจอต้นหลุมพอต้นหนึ่ง สงสัยว่าทำไมปลูกนานแล้วไม่โต ขุดโคนออกดู ปรากฎว่า ต้นนี้เช่นกัน เพราะเชื่อตามคำแนะปรากฏว่ามีแต่รากแก้วที่งอกออกมา แต่ไม่มาก นอกนั้นรากฝอยยังอยู่ในถุง เหมือนกับเราเพาะต้นไม้ทุกอย่าง แต่แทนที่จะตั้งบนดินเราไปฝังแทน แค่นั้นเอง
เป็นบทเรียน ครั้งหลังปลูกต้นไม้ จะไม่เชื่อกูรู มากอีกแล้ว ลองด้วยตัวเองดีกว่า
อย่างเช่นการขุดหลุมเช่นกัน บางตำราว่าต้องขุดอย่างนั้น ขุดอย่างนี้ แต่เท่าที่ทดลองปลูกแล้ว ขุดหลุมให้กว้างเพื่อให้รากฝอยมันทำงานได้เต็มที่ดีกว่า ส่วนรากแก้วมันแทงของมันลงไปได้เองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาเอาเอง ว่าจะขุดขนาดใหน มีน้ำอยู่ข้างล่างไหม ดินแข็งไหม การกดเน้นของดินรอบโคนให้แน่นมากเกินไปหรือไม่อย่างไร ต้องพิจารณาดินด้วย
หากดินร่วนไม่จำเป็นต้องกดให้แน่นมาก แต่หากดินเหนียว อย่าปลูกในช่วงที่ดินแข็งมากเกินไป หากจำเป็นต้องพรวนดินให้ดีก่อนกลบปิดโคนต้นไม้ที่เราจะปลูก หากพรวนไม่ดี ดินมันจะเกิดช่องว่างได้ และหากโคนต้นไม้ต้นไปไหนมีมดสร้างรัง นั้นแหละแสดงว่าข้างล่างมีโพรง ทำให้รากยึดดินไม่แน่น
ขึ้นหัวข้อว่าพรุ่งนี้จะไปฝังรากฟันเทียม แต่ มันออกนอกเรื่องไปไกล ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก มันไม่มีอะไรจะเขียน นอกจากอย่างที่บอกกังวลนิดๆๆ กลัวเจ็บ กับใจหวิว ๆๆ นิดหน่อย ไม่ใช่เป็นเพราะอะไรหรอก มันหลายเงินเหมือนกัน แต่เพื่อสุขภาพ ต้องจัดการให้เรียบร้อย
เงิน หามาทำไม นั้นคือสิ่งที่คิด แต่ถ้าไม่มีเงินหรือไม่มีเงินเก็บบ้าง ชีวิตมันลำบากแน่นอน
บางคนว่าเงินไม่สำคัญ ใช่… แม้ไม่มีเงิน แต่หากเราคิดว่าเรามีความสุข แล้วมันก็มีความสุข แต่ หากเราไม่มีเงินเลย พรุ่งนี้ เราจะไม่มีโอกาสฝังรากฟันเทียม เพราะเราไมมีเงิน ถามว่า แล้วหากเราไม่ฝังรากฟันเทียมมันมีความสุขใหม
มันปกติ แต่การใช้ชิวิตจะลำบากขึ้น ต้องใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
เมื่อใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ เช่นกัน หลังกินข้าวต้องถอดล้างทุกมื้อ อยู่บ้านไม่มีปัญหา แต่หากเราเดินทางไปข้างนอก นั้นแหละคือปัญหา
งั้นไม่ใส่ฟันปลอมได้ไหม
นั้นแหละเช่นกันปัญหาที่จะเกิดตามมามากคือ ฟันซี่อื่นอาจจะพังตามไปด้วย เพราะอะไรหรือ
เนื่องจากมันมีช่องว่าง ของฟันที่หายไป เมื่อเกิดช่องว่างเราเคี้ยวข้าวมากๆๆ ไม่นานฟันที่อยู่ระหว่างช่องว่าง จะล้มเข้ามาหาช่องว่าง
ส่วนฟันบนมันจะยื่นลงมา เพราะไม่มีฟันคู่สบแล้ว
ที่เล่ามาตั้งหมด ไม่ได้ฟังจากใครมา แต่เจอด้วยตนเองแล้วทั้งนั้น เขียนมาเล่า เผื่อใครเข้ามาอ่านเจอ จะได้รีบไปดำเนินการจัดการเสียให้เรียบร้อย ก่อนจะสายเกินแก่
พรุ่งนี้ ออกเดินทางไปหาหมอฟันคิดว่า จะลองเขียนรีวิว การเดินทางและเรื่องต่างๆๆ เผื่อได้นำมาเขียน Blog
เช่นกัน บางคนว่าเขียนทำไม ครั้งแรกๆ คิดแบบนั้นแหละ
แต่เป้าหมายจริงๆๆ มันเกิดจากการอ่านหนังสือหลายเล่ม วันนี้ เจออีกเล่มชื่อ ร้านเวทมนต์ที่มีในตัวตน อ่านครั้งแรกยังงง ว่าเขาสื่อถึงอะไร
กลับมาอ่านรอบสอง ออ….. เขาสื่อถึงว่าคนเรามีเวทมนต์ทุกคน แต่เราจะใช้มันหรือไม่ อ่านแล้ว มาสรุปในกรอบเดิมที่ชอบเขียนบ่อย คือเรื่องการวางเป้าหมายคิดว่าเราต้องการจะเป็นอะไร
แต่หนังสือเล่มนั้น เขาอธิบายถึงการใช้เวทมนต์ แต่อ้างอิงหลักการเดียวกัน เขาให้จิตนาการว่าอยากเป็นอะไร แล้วให้คิดว่าเราเป็นอย่างนั้นแล้ว ให้ย้ำคิดย้ำทำว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้
มันคือการทำให้เราก้าวเดินไปยังเป้าหมายอย่างไม่ยอมแพ้
แล้วมันเกี่ยวกับ Blog นี้ ได้อย่างไร
มันเกี่ยวกันเพราะเมื่อก่อนเคยคิดว่าอยากทำอะไรที่เก็บไว้เป็นชิ้นเป็นอัน บันทึกทุกสิ่งเก็บไว้ได้อ่านยามแก่ตัว
แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักที สร้างเว็บไว้ บางทีเว็บตาย
จนอ่านหนังสือมากๆๆ จึงรู้ว่า หากจะอยากให้อะไรเป็นจริง
จงตั้งเป้าหมาย แล้วลงมือทำ เมื่อลงมือทำแล้วจงมีวินัยให้กับตัวเอง
หากเราทำเป้าหมายนี้สำเร็จ เกิดเราต้องเป้าหมายอื่นโดยใช้หลักการเดียวกัน ชีวิตมันคงจะมีความสุข ไม่มากก็น้อย เพราะเราได้อ่านหนังสือ แล้วทำตาม พร้อมสังเคราะห์มันจนเราเข้าใจ
คืนนี้น่าจะพอแค่นี้ก่อน
editor's pick
latest video
news via inbox
ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร