18 กันยา 66 ค่าเลือด 19

Last Updated: 28/11/2023By Tags:

18 กันยา 66 ค่าเลือด 19 นี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด ที่ใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น แทบไม่มีการอัพเดทเว็บไซต์เลย ใช่ครับ ค่าเลือด 19 นั้นหมายถึงโลหิตในร่างกายจางเกินกว่าข้อกำหนดที่กำหนดไว้ นั้นคือ ต้องไม่ต่ำกว่า 20

มันเริ่มจากสิ่งแรกที่เข้าปาก เขาเรียกว่าทุเรียนกวน สิ่งแรกที่สำผัสได้คือมีกลิ่นแปลกๆๆๆ และมีก้อนเล็กๆๆ ในชิ้นเนื้อทุเรียนกวนนั้น แต่ไม่ได้เอะใจแต่อย่างไร หลังจากกลืนมันลงไปในท้อง ไม่นานสิ่งที่ตามมาคือมวนท้อง แต่เหมือนเดิมไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นการปวดท้องธรรมดา

เดินทางเข้าสวน เพื่อให้ร่างกายมีความเคลื่อนไหว และหวังในใจนิดๆๆ ว่าเมื่อออกกำลังการมีการเคลื่อนไหวแล้ว คงมีการขับถ่ายอาหารที่กินเข้าไปออกมา หลังจากนั้น คิดว่า มันคงจะหายจากอาการต่างๆๆๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในร่างกายของเรา

สุดท้ายไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ กลับบ้านมาเริ่มมีอาการรุ่มๆๆ ทำท่าจะเป็นไข้ แต่ไม่ได้เป็นไข้ หรือเรียกว่าครั่นเนื้อครั้นตัว แต่ไม่มากเท่าไร่ และแล้วในเช้าถัดมามีอาการท้องเสีย และเริ่มปวดในท้อง คิดว่า เป็นโรคกระเพาะ มีอาการมึนๆๆ เลยหายาแก้โรคกระเพาะมากิน วางแผนจะไปหาหมอโรคกระเพาะ ไม่คิดว่า กำลังเดินทางหรือคิดออกนอกทางที่ไม่คาดฝัน

ในตอนเช้าของวันที่ 18 กันยา 66 เดินลงจากบ้านมาที่ขนำ ปวดท้องฉี่ ขึ้นมาด้วยความขี้เกียจ เลยฉี่ตรงนั้น ปรากฏว่า มีสีคล้ายกับน้ำโค็ก เอะใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจ ร่างกายเริ่มเพลียมากขึ้น

ตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าชวนลูกไป รพ.นครินทร์ ขับรถจากบ้านด้วยตนเองระยะทางเกือบ 70 กม. ถึง รพ.ประมาณ บ่ายโมงกว่า เข้าเจอแพทย์ เมื่อแพทย์ซักประวัติและเจาะเลือด เพื่อหาค่าต่างๆๆ ปรากฏว่า ค่าเลือดจาง 19 และมีอาการอื่นตามมาด้วยนั้นคือการติดเชื้อ และการติดเชื้อนั้นแหละทำให้มีการทำลายเม็ดเลือดแดง สุดท้ายทำให้โลหิตจางอย่างมาก

แพทย์บอก ต้องนอนให้เลือดใน รพ.

ว่าแล้วจะเอาไงดี นี่คือ รพ.เอกชน นั้นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายต้องสูง แต่ หากกลับไป รพ.ใกล้บ้าน ปัญหาคือแพทย์ เขาเข้าใจเกี่ยวกับโรคเลือดดีพอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมารักษาตัวเกี่ยวกับโรคเลือด ที่ รพ.นี้ เพียงแต่ไม่ได้ ต้องพัก และแพทย์ที่รักษาก็อยู่ใน รพ.นี้ โดยเดินทางมาจาก รพ.มหาราช ของจังหวัดนครศรีธรรมราช

จะเข้า รพ.มหาราช น่าไม่มีห้องพักหรือต้องจัดการหลายเรื่องแน่นอน

กำลังหมุนซ้ายหมุนขวา ว่าจะเอาอย่างไรดี เลยโทรไปถามคนที่บ้านว่า จะเอาอย่างไรดี ประโยคแรกที่ได้รับคำตอบกลับมาคือ เงินหาไปทำไม ถ้าไม่ต้องการรักษาตัวเอง

หลังจากคุยมือถือกับคนที่บ้านเสร็จ ได้เข้าไปพบแพทย์อีกครั้ง และบอกว่าเอาตามที่แพทย์ว่า หลังจากคุยกับแพทย์เสร็จ สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปคือ จากเดิมที่เดินด้วยตนเองทุกอย่าง เมื่อออกจากห้องแพทย์ตรวจ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมทันทีคือ พยาบาลบอกว่า ขอให้นั่งรถเข็น เพื่อความปลอดภัย หากมีอาการวูบหรือมีอาการผิดปกติ

เป้าหมายแรก ที่รถเข็นพามาคือ ห้องฉุกเฉิน

สิ่งต่อมาคือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นของ รพ. และทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มรัดตัว มาพร้อมกับความเจ็บปวด สิ่งแรกที่สำผัสได้คือ รู้สึกเจ็บเล็กน้อยที่ปลายนิ้วมือ ได้ยินเสียงพยาบาลบอกมาว่า เก็บค่าเลือดตรวจเบาหวาน แต่ขั้นแรกผ่านไปไม่พบเบาหวาน

ต่อมา เอาสายยางสอดเข้าทางจมูก เพื่อให้สายยางพุ่งตรงไปยังกระเพาะอาหาร ดูว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มี แต่มันทรมาณสุดๆๆ กว่า จะตรวจด้วยน้ำยาอีกตัวเพื่อทราบค่าต่างๆๆ

หลังจากเสร็จในขั้นตอนนั้นหมดทุกอย่าง เริ่มเจาะเลือด เจาะช่องทางสำหรับให้น้ำเกลือ และให้เลือดผ่านทางหลังมือ ซึ่งเข็มที่ใช้ค่อนข้างจะใหญ่กว่าให้น้ำเกลือปกติ เพราะเผื่อสำรองไว้สำหรับให้เลือดด้วยในคืนนี้

ในขณะที่นอนรอห้อง พยาบาลเริ่มจ่ายยาฆ่าเชื้อผ่านทางช่องทางหลังมือ และนอนรอห้องประมาณ 3 ชม. มองดูเวลาประมาณ บ่าย 3 โมงกว่าๆๆ เจ้าหน้าที่ได้เข็นรถขึ้นไปยังห้องพัก ตอนนี้แหละทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมาจัดเต็ม ตั้งแต่การให้น้ำเกลือ การให้ยาผ่านทางสายน้ำเกลือ สุดท้ายประมาณ 3 ทุ่มกว่า เลือดเดินทางมาถึง แต่ก่อนเลือดจะเดินทางมามีการเจาะปลายนิ้วอีกครั้ง เพื่อทราบค่าเลือกว่า กรุ้ปอะไร เป็นอะไรที่ไม่ชอบเลยกับการดีดเอาเลือดออกปลายนิ้ว และมันช่างบังเอิญเสียจริง พยาบาลก็เพิ่มฝึกหัดในการเจาะเลือดปลายนิ้ว เล่นเอาเจ็บกว่าปกติ

ให้เลือดเสร็จประมาณเที่ยงคืน แต่มันไม่ได้นอนดีเพราะพยาบาลเช็คความดัน วัดไข้ ทุก 6 ชม. หลังจากให้เลือดเสร็จ ให้น้ำเกลือตามปกติ หลังจากน้ำเกลือหมด ก็ไม่มีการให้น้ำเกลืออีกต่อไป

เช้าวันที่ 19 กันยา 66

เช้าวันนี้ เป็นวันที่สนุกสนานมากเป็นพิเศษ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า หลับๆๆ ตื่นๆๆ มีพยาบาลเข้ามาแล้วเจาะเลือดไป 2 หลอดใหญ่ ๆๆ คิดในใจว่าน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่นาน มีพยาบาลเข้ามาอีก และบอกว่าไม่พอ ขอเจาะเพิ่มอีก 2 หลอดใหญ่ เป็นพยาบาลคนเดิมกับที่เจาะครั้งแรก

ส่วนการทำภารกิจต่างๆๆ สามารถทำภารกิจส่วนตัวได้ตามปกติ เพราะเป็นแค่ค่าโลหิตจางไม่ได้กระทบถึงส่วนอื่น เพียงแต่ค่อยเฝ้าระวังเพราะว่า การทำงานของร่างกายไม่สมบูรณ์ มันเกิดจากเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ

หลังจากนั้น มีพยาบาลอีกคน มาขอเจาะเลือดอีกครั้ง บอกว่า ทางแพทย์ต้องการเพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งนี้เช่นกัน 2 หลอดใหญ่ๆๆ เมื่อเจาะเลือดเสร็จ หลังจากนั้นไม่มีอะไรมาก รอแพทย์เข้ามาเพื่อบอกวิเคราะห์อาการ และนอน มีการให้ยาเข้าทางสายเลือดผ่านทางสายน้ำเกลือเป็นระยะ แต่ ตอนหลังๆๆ มีการใช้งานมาก มันเริ่มเจ็บแล้ว โดยเฉพาะตอนพยาบาล บางคนฉีดยาผ่านทางสายน้ำเกลือที่รีบ หรือไม่ค่อยๆๆฉีด จะมีอาการร้าวบริเวณเส้นเอ็นที่หลังมือ

เริ่มผวาดผวากับการฉีดยาผ่านสายน้ำเกลืออีกแล้ว แต่ได้บอกพยาบาล และพยาบาล ได้ค่อยๆๆๆ ฉีดให้ ไม่เร่งรีบเหมือนกัน แต่คิดในใจว่า น่าจะต้องเปลี่ยนไปอีกข้างเพราะหลังมือข้างซ้ายมันเริ่มบวมแล้ว

จนถึงเวลาประมาณบ่ายคนที่บ้านได้เดินทางมาถึง เท่ากับว่าตอนนี้ มีคนมาเฝ้า สองคน คือ ลูก กับคนที่บ้าน (คือเมีย หรือภริยา หรือแฟน แล้วแต่จะเรียก)

ตอนบ่ายแพทย์เข้ามาพร้อมกับแจ้งรายละเอียดผลค่าเลือด ปรากฏว่า ค่าเลือดสูงขึ้น 21 แล้ว และบอกแบบให้ความหวังว่าพรุ่งนี้ น่าจะกลับบ้านถ้าค่าเลือดขึ้นสูงกว่านี้ หลังจากที่แพทย์ดูแลประจำตึกออกไปแล้ว มีแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งเป็นแพทย์จาก รพ.มหาราช มาขอทราบรายละเอียดพร้อมกับบอกแนวทางการรักษา และบอกว่า หากค่าเลือดขึ้นตามที่แพทย์ต้องการ จะให้ยาไปกินที่บ้าน

หลังจากนั้น นอน อย่างเดียว กับมีการฉีดยาต่างๆๆ ผ่านทางสายน้ำเกลือความเจ็บเริ่มเข้ามาเยือนอีกแล้ว เลยคิดในใจว่า น่าจะต้องให้เปลี่ยนการฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือไปอีกข้าง เพราะตอนนี้ น้ำเกลือก็ไม่ให้แล้ว น่าจะลดขนาดเข็มที่เจาะคาไว้ในมือให้เล็กลง แต่คิดในใจว่า ตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ จะต้องมีการเจาะเลือดอีกแน่นอน ค่อยบอกพยาบาลให้ย้ายข้าง เจ็บครั้งเดียวไปเลยดีกว่า

เช้า 20 กันยา 66

ตอนเช้า บอกพยาบาลให้เปลี่ยนย้ายที่เจาะสายยางสำหรับฉีดยาหรือให้น้ำเกลือมาอีกข้าง ขณะที่เจาะเลือดเพื่อเอาไปตรวจ เพราะเจ็บมากแล้ว หลังจากนั้น ไม่มีอะไรมาก ความเจ็บลดน้อยลง วันนี้ แพทย์เข้ามาและบอกว่า ต้องรอดูอีกวัน เลยนอนอย่างเดียว ไม่มีเหตุการณ์อะไรมาก

เช้าวันที่ 21 กันยา 66

แพทย์เข้ามาบอกว่า ค่าเลือด 27 น่าจะเดินทางกลับบ้านได้ เลยจัดเก็บของ แต่ ประมาณใกล้เที่ยงมีปัญหาอีกคน ที่เป็นแพทย์เฉพาะทางบอกว่า ค่าเลือดยังไม่สูงพอ อยากให้นอนต่ออีกให้ค่าเลือดได้สัก 30 แล้วให้ยาไปกินที่บ้านแทนยาฉีดเข้าสายน้ำเกลือ

ปัญหามันเกิดขึ้น เพราะว่า ค่าใช้จ่าย หากนอนให้ค่าเลือดสูงน่าจะมากขึ้นอีก และแพทย์อีกคนบอกว่ากลับบ้านได้ แต่ต้องถามแพทย์อีกคนว่า กลับได้ไหม แต่แพทย์อีกคน ติดต่อไม่ได้ ความยุ่งยากเริ่มบังเกิดขึ้นทันที

นอนรอ ประมาณ 2 ชม. มีแพทย์ที่ดูแลประจำตึกเข้ามาพูดคุย และได้บอกเล่าเหตุการณ์ และเสนอเงือนไขว่า แบบนี้ได้ไหม ในความเป็นจริงแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวกับเลือดอยากให้นอนต่ออีกสักคืนเพื่อฉีดยาผ่านทางสายน้ำเกลือซึ่งจะมีผลดีกว่าการกินยา แต่ การฉีดยาดังกล่าว ยังไม่ครบตามที่แพทย์ต้องการ

หากกลับบ้านให้เอาตัวยาและเอาสายน้ำเกลือค้างไว้แบบนั้น ให้ รพ.ใกล้บ้านฉีดให้แทน แต่ ต้องฉีด 6 ชม.ครั้ง นั้นหมายถึง 6 โมงเย็น เที่ยงคืน 6 โมงเช้า สะดวกไหม มานั่งคิดว่า สะดวกว่า นอนให้ฉีดที่นี้ เลยตกลงและเอายาไปให้ รพ.ใกล้บ้านฉีดให้แทน เลยออกจาก รพ.ทั้งที่มีตัวเข็มสำหรับให้น้ำเกลือค่าอยู่ตลอดเวลา แม้มาถึงบ้านก็ถอดไม่ได้ต้องติดเข็มไว้แบบนั้นตลอดเวลา เพื่อใช้สำหรับฉีดตัวยาที่ทาง รพ.ให้มาฉีดเข้าไปให้ครบตามที่แพทย์ต้องการ

ขับรถกลับบ้าน มาถึงบ้าน ได้นอนได้นิดหนึ่ง และรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ผ่านมาดูแลรักษาสุขภาพมาตลอด ระยะทางขับรถ 70 กว่า กม. แม้ว่าจะมีอาการเพลีย แต่มันไม่มาก สามารถขับรถและนอนพัก ไม่นอนก็หายเหนื่อย เมื่อหายเหนื่อยแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ขับรถต่อไปยังบ้านพี่ที่ทำงานสาธารณะสุขเพื่อให้เขาฉีดให้เพราะเขาอยู่ใกล้บ้าน แต่พอไปถึงดูท่าทางเขาเรื่องมาก คล้ายกับไม่เต็มใจทำให้หรือทำไม่เป็นไม่แน่ใจ คนที่บ้านสังเกตุเห็น เลยบอกว่าไปฉีดที่ รพ.ดีกว่าเพราะห่างกันแค่ 6 กม.เอง

เลยตกลงใจไปให้ รพ.ชะอวด ฉีดให้ ไปถึง รพ.เข้าห้องฉุกเฉิน ติดต่อให้พยาบาลฉีดให้ ฉีดเรียบร้อย โดยพยาบาลที่ฝึกงาน ก็เดินทางกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านดูเวลาแล้วน่าจะนอนพักได้นิดหน่อย ก่อนจะถึงเที่ยงคืนที่ครบกำหนดเข็มถัดไป นอนเล่นสักพักใกล้เที่ยงคืน ออกเดินทางไปฉีดอีกครั้ง กลับมาถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า และกำหนดการใกล้รุ่งอีกครั้ง ประมาณ ตี 5 กว่า ออกเดินทางไปที่ รพ.ชะอวด อีกครั้งเพื่อฉีดเข็มสุดท้าย

เมื่อฉีดแล้ว กลับมาบ้าน และทาง รพ.นครินทร์ได้นัดหมายเพื่อพบแพทย์อีกในเวลา 08.00 น. หลังจากได้พักนิดหน่อยก็ เดินทางต่อไป รพ.นครินทร์เพื่อพบแพทย์ หลังจากที่แพทย์ตรวจอีกรอบ สรุป หลังจากนั้น แพทย์จ่ายยาให้มากินที่บ้าน

นั้นคือเหตุการณ์คร่าวๆ ในห้วงหนึ่งของชีวิต ที่มีแต่ความสับสนเร้าร้อนเร่งรีบ และหลายๆๆ สิ่งประเดประดังเข้ามา แต่แล้วมันก็ผ่านเหตุการณ์ไปได้

news via inbox

ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร

Leave A Comment