ชีวิตกับธรรมชาติ
ชีวิตกับธรรมชาติ
ผ่านหลายช่วงของชีวิต สุดท้ายพบว่า สิ่งที่ตอบสนองเราได้ดีที่สุดคือธรรมชาติ
ธรรมชาติจะช่วยเราหลายเรื่อง เช่น ร่างกายแข็งแรง สายตาดี มีความสุข หลุดจากโลกภายนอก และอะไรอีกหลายอย่าง ที่ตอบสนองให้กับชีวิต
การใช้ชีวิตอย่างสมดุล
จากที่ชีวิตมีแต่ความเร่งร้อน เร่งรีบ เพื่อตอบสนองความต้องการของชีวิต ซึ่งที่จริงมันคือสิ่งที่สังคมสร้างขึ้น เพื่อให้เราต้องทำตาม หรือเราคิดว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อให้เข้ากับสังคม หรือเพื่อยกตัวเองให้ทุกคนยอมรับ ทั้งๆๆ ที่ไม่มีกฏเกณฑ์หรืออะไร เป็นตัวกำหนดว่า
สิ่งไหนทำแล้วแล้ว เราสามารถจะมีความสุขได้
ชีวิตเลยมีการปรุงแต่งมาก กินกาแฟ ก็ต้องกาแฟสด นั่งร้านดีๆๆ แต่พอมาอยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตเรียบง่าย รู้สึกชีวิตมันง่ายขึ้น ไม่มีพิธีรีตอง ไม่ต้องนั่งเลือกเสื้อผ้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ หรือนั่งร้านดีๆๆ เพื่อสร้างแบรนต์ให้ตัวเอง
เมื่อกลับมาใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ปลดปล่อยสังคมหรือสิ่งที่ปรุงแต่งไว้ข้างนอก รู้สึกว่า ได้ปลดสิ่งที่หนักอึ้งของภายนอกที่ออก รู้สึกชีวิตเบาสบาย
ตื่นเช้าขึ้นมา ใช้ชีวิตเรียบง่าย กาแฟ ก็เดิมๆๆ ไม่ได้แพง และไม่ต้องเติมน้ำตาล หรืออะไรอื่นให้มาก แค่ เกล็ดกาแฟกับน้ำร้อน ก็กินได้ทันที
ใช้เวลานิดหน่อย ในช่วงกินกาแฟ ดื่มด่ำกับหนังสือเล่มโปรด หนังสือที่เราคัดเองว่า มันคือสิ่งหนึ่งที่ให้ความรู้ หรือตอบสนองต่อสิ่งที่เราต้องการ
เมื่อก่อนตื่นเช้ามา มักจะเปิดไลน์ เปิดเฟสบุค
แต่ ก็ค้นพบว่า เวลาที่ใช้ไปกับสิ่งนั้น บางทีมันแค่ความว่างเปล่า เราต้องการคุยกับเพื่อน ต้องการเห็นอะไรภายนอกดีๆๆ
แต่ผลที่ได้มา คือเจอแต่โฆษณา การชี้นำ การสร้างหรือทำอะไร เพื่อให้ทุกคนเข้าไปดูเพื่อต้องการยอดวิว
จริงอยู่เราอาจจะไม่สนใจก็ได้ แต่มันทำให้เวลาในชีวิตของเราขาดหายไปกับการเลื่อนหรือติดกับที่เขาสร้างมา หรือดูตัวเราเหมือนกับว่าในชีวิตนี้ โดนยัดเยียดความคิด จนบางทีคิดเองไม่เป็น สิ่งที่น่ากลัวคือการสร้างบรรทัดฐานของชีวิต
เลยหยุด และอ่านหนังสืออย่างเดียว จึงได้พบว่า นี่คือความสุขจริง บางทีคนเรามักติดกับ อยู่กับการปรุงแต่ง เพื่อให้สังคมยอมรับ
แต่หากเราปรับตัว ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านเราให้มีความความสมดุล ชีวิตเรา ก็สามารถอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขและสุขมากๆๆ เสียด้วย
การปรับแนวคิด
บางทีหากเราค้นหาความสุขหรือต้องการสร้างความสุข แต่เรามักจะลืมไปว่า บางทีการหาความสุขของเรา มันคือ การทำลายสิ่งหนึ่งเพื่อมาสร้างสิ่งหนึ่ง และสนองความอยากของเราและคิดว่ามีความสุข
บางที มันแค่เปลือกนอกของความฉาบฉวย แต่ผลกระทบตามมามากมาย
บ้านหลังหนึ่ง เราใช้งานหรืออยู่แค่ สองสามห้อง ใช้งานมากที่สุดน่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว ห้องพักผ่อน แต่ เพื่อความมีหน้ามีตาในสังคม หรือเพื่อให้เป็นที่ยอมรับยกระดับตัวเอง ก็มักจะสร้างเสียจนใหญ่โต แล้วจัดงานขึ้นบ้านใหม่ เพื่ออวดบ้าน แต่ผ่านไป 10 ปี บ้านหลังนั้น ก็ตกรุ่น หรือบางที สร้างมาแล้วก็ตอบโจทย์การใช้งานไม่ได้
แต่ สิ่งที่เราทำไปโดยนึกไม่ถึง ว่า สิ่งที่เราเอามาสร้าง แล้วเรียกว่าบ้าน สิ่งที่ใช้มันคือ ปูนซิเมนต์ และสิ่งที่ตามมาคือสาเหตุของการทำลายภูเขาเพื่อมาสร้างเป็นปูนซิเมนต์ อุปกรณ์เกือบทุกชั้นในบ้านคือเอามาจากธรรมชาติ
นั้นคือ เราสนับสนุนการทำลายธรรมชาติ โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ เพราะเราคิดว่า สิ่งที่เราทำนั้นคือความสุขที่แท้จริง
แต่ เราจำเป็นต้องทำ ต้องสร้างเพื่อคุ้มหัวของเรา แต่น่าจะปรับแนวคิดใหม่ คือใช้แค่ไหน ก็สร้างแค่นั้น แล้วก็สร้างธรรมชาติให้กับโลกใหม่ เพื่อคนรุ่นหลัง แม้ว่า ภูเขาจะสร้างไม่ได้ ก็สร้างในส่วนที่เราสามารถสร้างได้ เช่นปลูกต้นไม้ ลดสิ่งที่คิดว่าน่าจะกระทบกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อเราต้องการพักผ่อน ส่วนมากสิ่งที่คิดคือ ไปท่องเที่ยว และสถานที่พักมักจะเป็นธรรมชาติ นั้นคือสิ่งที่เราต้องการ
แล้วทำไม เราไม่ปรับบ้านของเราให้เป็นธรรมชาติ ได้เที่ยวทุกวัน สร้างหลังเล็กๆๆ แต่เน้นธรรมชาติ สร้างเท่าที่เราใช้งานจริง สร้างมุมเล็กๆๆ ที่เราชอบสร้างความสุขให้กับเรา
ตื่นเช้าขึ้นมา สายตาปะทะกับต้นไม้ก็สดชื่น ตอนเย็น นั่งฟังเสียงนก เสียงหริ่งหรีดเรไร ร้อง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ
ชีวิตคนบางที เหมือนขับรถยนต์ นึกแต่อย่างเดียวคือเป้าหมาย แต่ในระหว่างทางที่ขับแทบไม่ได้ดูเลยว่ามีอะไร ดีๆๆ บ้าง เพราะเป้าหมายคือแรงผลักดัน ที่สังคมบอกว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ถ้าไม่ทำมันคือสิ่งที่ผิดปกติของสังคม
ดังนั้น ในแต่ละวัน ให้หันกลับมามองตัวเองบ้าง ว่า เราเร่าร้อนไปทำไม ความสุขมันอยู่ใกล้ตัวนิดเดียว แค่เราลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องใหัสังคมเป็นตัวกำหนดว่า ต้องทำแบบนั้น ต้องทำแบบนี้ เป็นตัวกำหนด
สร้างธรรมชาติขึ้นมา กับวิ่งเข้าหาธรรมชาติ แล้วเราจะรู้ว่าชีวิตของเรา มันมีพลังขึ้น เพราะเราได้ปลดปล่อย สิ่งที่ยึดและฝังหัวมานานว่า ต้องทำอย่างนี้ ต้องทำอย่างนั้น เพราะคนอื่นเขาทำกัน แต่ เราไม่ได้มองอีกมุม
ว่าที่เขาทำไปแต่ละวันเขามีความสุขหรือไม่
ในขณะที่เรา ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตื่นขึ้นมาเจอกับธรรมชาติ แม้ดูแล้ว ไม่มีอะไรเลย แต่ใจของเราพบแล้วว่า มันคือชีวิต
มองภาพนี้แล้วรู้สึกอย่างไร
มันแค่ถนนเส้นหนึ่ง เส้นเล็กๆๆ วิ่งผ่านสวนยาง แต่มันให้ความรู้สึกชีวิตสงบ บนเส้นทางที่ทดยาว แม้ไม่สุดสายตา เราอาจจะขับผ่านบ่อยหรือประจำ แต่ถ้าเราไม่หยุดแล้วคิด แล้วมอง เราจะไม่เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในภาพ
editor's pick
latest video
news via inbox
ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร