10 พ.ย.66 เดินทางล่วงหน้าไป รพ.มอ.

Last Updated: 01/12/2023By Tags:

10 พ.ย.66 เดินทางล่วงหน้าไป รพ.มอ. แพทย์นัดวันที่ 11 พย.เวลา 09.17 น. ด้วยระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร โดยการวัดระยะทางจากที่บ้าน หากไปตอนเช้าหน้าจะทัน แต่ ต้องแลกกับความเร่งรีบ และความเหนื่อยเพิ่มขึ้น เลยตัดสินใจเดินทางล่วงหน้าดีกว่า เพราะว่า จะได้ไปเที่ยวที่ลูกด้วย ซึ่งพักอยู่ใกล้ๆๆ กับ มอ. เรียกว่า หากไม่มีที่จอดรถสามารถเดินหรือใช้รถมอเตอร์ไซต์ขับมาใน รพ.มอ.ได้

ในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อก่อนคิดว่าเดินทางไกล มันน่าเบื่อ ต้องรีบ ต้องเตรียมการหลายอย่าง และทุกครั้งมันจะเหนื่อยมาก แต่พอมาปรับแนวคิด ปรับ mindset ว่า การเดินทางคือการท่องเที่ยว ไปเรื่อยๆๆ พักผ่อน แวะดูข้างทางหรือไม่ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่เราอย่างทำ ไม่เร่งรีบ เดินทางล่วงหน้า ความรู้สึกดังกล่าวแทบจะหายไปเลย มันกลายเป็นความสุขกับการเดินทาง การได้แวะพบปะผู้คน ดูผู้คนที่เขากำลังเดินทางด้วยเช่นกัน

เตรียมตัวเตรียมรถ

ก่อนออกเดินทาง เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจว่า น่าจะต้องเปลี่ยนไปรักษาดูแล้วสุขภาพที่ มอ.ฟรีเมียม โดยเปลี่ยนยางรถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สุดท้ายทำของยากที่สุดคือเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ มันเป็นประสบการณ์ที่เรียกว่า ได้บทเรียน

ดูเขาแนะนำวิธีการเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ ใน Youtube แล้วมันง่าย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่พอทำจริงปรากฏว่า สภาพสิ่งแวดล้อมของรถที่จะเปลี่ยนไม่เหมือนกัน แม้ว่ารุ่นยี่ห้อเดียวกัน นั้นเป็นเพราะว่าบางคัน มีการดัดแปลงมาแล้ว ด้วยความที่ว่า ทำไปเพราะทำตามเขา เลยทำให้เสียเวลาเป็นวัน สุดท้ายยกเลิก แบบที่เขาแนะนำ แล้วลองวิเคราะห์วิธีการปรากฏว่า ง่ายนิดเดียว ทำไม่นานเสร็จ

มันเป็นบทเรียนอีกอย่างว่า การทำงานทุกครั้ง อย่าทำตามที่คนอื่นแนะนำจนกลายเป็นไม่ได้คิดเองและต้องทำตามทุกครั้ง มันเสียเวลามากเพราะเราไม่ยอมวิเคราะห์แนวทางการแก้ไขหรือทางอื่น ไปหลงทิศตามเขาแนะนำอย่างเดียว แต่หากเราหยุดแล้วคิดในแนวทางอื่นวิเคราะห์ แล้วเราจะพบว่าบางทีมันสะดวกและง่ายกว่า ลดเวลาการทำงานได้มากกว่าเสียอีก

สุดท้ายเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์เสร็จ ง่ายๆๆ แค่ถอดคลิปล็อกแผ่นรองหินใต้กรองน้ำมันเกียร์ออก 5 ตัว แล้วเอาตัวกรองออกมาเปลี่ยนแค่นั้นเอง สรุปบทเรียนที่ได้คือ เราโดนชี้นำว่าต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ แต่ไม่ได้วางแผนคิดเอง สุดท้ายเมื่อวางแผนคิดเอง ลองไล่ดูเส้นทางการเข้าถึงกรองเกียร์ ปรากฏว่า ไม่มีอะไรมาก เปลี่ยนได้ง่าย ๆๆ

เลือกเส้นทางที่จะเดินทาง

ในวันออกเดินทาง วันที่ 10 พ.ย.66 เลือกเส้นทางที่แม้ว่าจะไกลกว่านิดหน่อย แต่เป็นเส้นทางไม่มีรถ ถนนดีกว่า นั้นคือเส้นทางสายระโนด สทิงพระ สิงหนคร แล้วไปเลี้ยวขวาตรงน้ำแยกน้ำกระจายตรงเข้า รพ.หาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เพราะไม่รีบเลยไม่เหนื่อย เส้นทางนี้ หากมีเวลาเป็นเส้นทางที่มีวัฒนธรรมสายหนึ่ง โดยเฉพาะวันมีวัดสวยๆๆ หลายวัดและมีตลาดชุมชน น่าแวะเพื่อดูวิถีชาวบ้านได้หลายตลาด แต่ไม่ได้แวะ เพราะไม่มีเป้าหมายที่จะแวะ

จุดเสียของถนนสายนี้ คือ บ้านเรือนอยู่ชิดถนนเกินไป แม้ว่ามันเป็นถนนสี่เลน แต่ บ้านชิดถนนทำให้เลนซ้าย ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง มีคนขับรถมอเตอร์ไซต์บางคน ขับเข้ามาในเลนรถยนต์ด้านซ้าย จนบางครั้งวิ่งได้เลนเดียวหลายช่วง จะไม่ว่าคนขับก็ไมได้ เพราะมันน่าจะเกิดจากความเคยชิน และอีกอย่าง บางครั้งเขาขับในเลนมอเตอร์ไซต์แล้ว บางทีมีรถจอดมาก หรือมีรถวิ่งส่วนมา อย่างที่บอก ถนนมันชิดบ้านคนมากเกินไป กับเลนมอเตอร์ไซต์ บางทีมันแคบไปนิด

วันนี้ เย็นวันศุกร์คิดว่า รถน่าจะมาก เลยคิดวางแผนว่า น่าจะให้ถึงหาดใหญ่ บ่าย 3 โมง และแวะ รพ.มอ.ก่อน เพื่อไปเอาบัตรที่ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ไว้

ปรากฏว่าเป็นไปตามที่วางแผนไว้ เลยเข้าไปยัง รพ.มอ.ก่อนเพื่อหาว่า มอ.ฟรีเมียม อยู่ตรงไหน มีที่จอดรถอย่างไร แต่จากการศึกษาเส้นทางเบื้องต้นพอเข้าใจแล้ว เพราะ ลูก 2 คน เรียนจบจาก มอ.หมด ดังนั้น ในห้วงเวลา 8 ปี ที่ไปส่งลูกหรือไปจัดการเรื่องลูก 2 คน เลยทำให้เข้าใจที่ตั้งต่างๆๆ ของอาคารภายใน มอ.ได้หมด

ขับรถไปเจออาคาร ศรีเวชวัฒน์ (สงสัยจังทำไม ตั้งชื่อนี้) แล้ว แต่ยังหาที่จอดไม่พบ จริงๆๆ พบแล้ว แต่เขาเขียนว่าที่จอดรถเต็ม เลยขับพ้นไป ขอบรรยายนิดสำหรับคนที่ไม่เคยไปและต้องการจะไป

เส้นทางในการเข้าไปยังอาคารศรีเวชวัฒน์ เข้าได้ 3 เส้นทาง แต่ ให้สะดวก เข้าทางเข้าปกติดีกว่า กรณีที่มาจากคอหงษ์เมื่อถึงสี่แยกตรงโลตัส ให้เลี้ยวซ้ายเลย แล้วจะผ่านผ่านอาคารฉุกเฉิน จริงๆ ตึกอาคารศรีเวชวัฒน์ อยู่หลังตึกฉุกเฉินนั้นแหละ เมื่อขับมาเจอวงเวียนให้เลี้ยวขวา ขับรถตรงไป เจอสามแยกแล้วขวาอีกครั้ง จะเจออาคารดังกล่าว

หรือไม่เข้าทางประตูด้านหลัง ซอย 102 ให้ขับรถเข้ามาแล้วเจอวงเวียนเช่นกัน ให้เลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวขวา จะมีป้ายบอก เลี้ยวซ้ายอีก ก็จะเจออาคารดังกล่าว

ขอสรุปเข้าที่จอดรถก็แล้วกัน เมื่อเข้ามาทางช่องทางด้งกล่าว ไม่ว่า ทางได้ก็ตาม เส้นทางเข้าไปยังที่จอดรถ จะเจอกับวงเวียนขนาดเล็กก่อน ให้เลี้ยวขวาตรงวงเวียนแล้วจะเจอทางเข้าที่จอดรถเป็นลักษณะยกสูง หากเจอป้ายเขียนว่าเต็ม อย่าไปเชื่อเพราะเคยโง่มาแล้ว ให้เข้ารถเข้าไปเลย

จะมีเจ้าหน้าที่ยื่นบัตรที่จอดรถให้กับแผ่นกระดาษสำหรับปั้มตราว่า เรามาตรวจที่ มอ.ฟรีเมียม แล้วเราไม่ต้องเสียค่าจอดรถ สำหรับการปั้มตราลงบนกระดาษดังกล่าว เมื่อเราจ่ายเงินให้กับค่ารักษาพยาบาลแล้ว จนท.การเงิน เขาจะปั้มให้เราเอง แต่หากเราไปจอดเฉยๆๆ เขาจะมีการเก็บเงิน เท่าที่อ่านคร่าวในบัตรจอดรถ เขาคิด ชม.ละ 50 บาท หลังจากนั้น ชม.10

ลักษณะของที่จอดรถ จะอยู่ชั้นล่างสุดของอาคารและจะมีดมาก ต้องเปิดไปหน้ารถเพื่อช่วยในการจอด เมื่อเราขับรถขึ้นไปเอาบัตร หรือทางเข้าเสร็จ เส้นทางจะชันลงไปเพือเข้าที่จอด ที่แรกที่เราเจอคือชั้น B1 หากเต็ม เราสามารถขับต่อเพื่อไปจอดในชั้นที่ลึกกว่าได้อีก นั้นคือ ชั้น B2

เมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อย จะมี ลิฟต์ให้เราขึ้นไปยังชั้น 1 ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับตรวจ

ส่วนสถานที่ภายในอาคาร จะแบ่งเป็นเคาเตอร์ต่างๆๆ ให้ถามหาชื่อแพทย์ที่เราต้องการจะตรวจว่า อยู่เคาเตอร์ไหน เป็นอันว่า เสร็จเรียบร้อยไม่ได้ยุ่งยากอะไร ขับรถมายังที่พักลูก เสร็จภารกิจ รอพบแพทย์พรุ่งนี้

news via inbox

ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร

Leave A Comment