Sj413ปัจจุบันและอดีต
หัวข้อเรื่อง
อรัมบท
ช่วงนี้ อาจจะเขียนหรือเล่าเรื่องรถมากหน่อย เพียงแต่ต้องการจัดการรายละเอียดเกี่ยวกับภาพเก่าๆๆ ดูการพัฒนการของรถ และดูพัฒนการของการทำงานด้านสวน ที่ทำงานวันละนิดวันละน้อย ไม่นาน ไม่น่าเชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ในส่วนนี้ จะเอาบทความเรื่องรถ Sj413 ก่อนแล้วค่อยสรุปเรื่องอื่น
อีกอย่างเป็นการทดสอบการใช้งาน ธีม Avada ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยากสักนิด แต่มันมีความยืดหยุ่นสูง พอทำไปนานๆๆ หรือไม่ได้ทำเว็บเพราะไม่ว่าง มักจะลืม เลยถือโอกาสทบสวนแก้ไข แต่มันอยู่ในห้วงความคิดสองอย่าง
อย่างแรก หากใช้ editor ของ ธีม avada มันจะมีปัญหาเมื่อย้ายธีม แต่ หากใช้ธีมของ gentenberg มันเร็ว แต่ความยืดหยุ่นมันน้อย เลยทดลองสร้างทั้งสองแบบดู
เปรียบเทียบตอนซื้อมาครั้งแรกกับปัจจุบัน
สภาพรถปัจจุบัน ถ่ายเมื่อวันที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่เป็นเดือนเมษา 2025
วันแรกที่ซื้อมา จ้างคนขายให้ขับมาให้ที่บ้าน แล้วก็ทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จในวันเดียวพร้อมทั้งทำใบโอนลอยเสร็จสรรพ เพื่อกันปัญหาที่จะตามมา ตอนนี้ ไปดูรถตอนค่ำแล้ว เพราะเห็นว่าอยู่ใกล้บ้าน รุ่งเช้าเลยนัดให้เขาขับมาให้ โดยให้ค่าจ้างขับ
เหตุผลที่ซื้อ
เป้าหมายในการซื้อรถเพื่อใช้งานในสวน หากดูตามสภาพแล้วจะเห็นว่าสียังสวย แต่เขาเพิ่งทำสีใหม่ และเช็คในภาพรวมแล้วรถน่าจะใช้ได้สัก 4 ปี แล้วต้องปรับปรุง เพราะว่า ดูจากการทำและการซ่อม เป็นการทำที่คนทำไม่ค่อยเข้าใจรถเท่าไหร่
ตอนนั้น แทบไม่ได้แตะต้องเกี่ยวกับการซ่อมรถเลย แต่เครื่องมือยังเก็บไว้อย่างดี และคิดว่า น่าจะต้องซื้อเพิ่มเพื่อให้เหมาะสมกับงาน และต้องมีเกรดดีมาใช้งานเพราะดูสภาพน้อต สกรูแล้ว แทบไม่เคยคลายเลย
แต่ สิ่งที่ต้องการคือได้ตัวรถมาในราคาถูก แล้วค่อยปรับปรุง ดูสภาพคาน เครื่องยนต์เพิ่งทำมาใหม่ แต่ช่างทำแบบบ้าน แต่สภาพรวมเหมาะกับราคา และทีสำคัญของแต่งเกือบเท่าราคารถแล้ว คิดว่า น่าจะต้องมาปรับปรุงใหม่
สิ่งแรกที่ทำคือเอาของที่ไม่จำเป็นออกหมด เพื่อใช้พื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ในการทำสวน
ขับเข้าสวนถ่ายรูปคู่กับขนำที่เพิ่งสร้างเสร็จ เดิมอยู่หน้าสวน แต่ย้ายมาไว้กลางสวนแทน เพื่อให้ลูกจ้างได้สะดวกเมื่อฝนตกในเวลากลางคืน หรือเก็บของต่างๆๆ ลองปืนขึ้นหน้าขนำ ได้นิดหน่อยยังใหม่ ไม่กล้าปีมาก และรถยังเป็นสภาพเดิมๆๆ ไม่ได้ปรับแต่ง แค่ใช้ยาง MOD เท่านั้น
ตอนนั้น การลุยแค่นี้ ถือว่าพอใจแล้ว เพราะสามารถผ่านเส้นทางเข้าสวนระหว่างด้านหน้าสวน กับด้านหลังสวน ที่มีห้วยเล็กๆๆ อยู่กลางและอยู่รอบสวน คิดว่าคุ้มค้ากับราคาที่ได้มา น่าจะต้องปล่อยไว้แบบนี้ สักปี หรือสองสามปี แล้วค่อยปรับแต่งเมื่อมีเวลาหรือต้องการใช้งานทุกวัน ซึ่งได้วางแผนแล้วว่า จะลงมือทำอย่างจริงๆๆ ไม่ใช่แค่ไว้ดูแลอย่างเดียว อาจจะต้องลงสวนเพื่มเมื่อมีเวลา
หลังจากได้รถมาลองลุยในสวน รู้สึกตื่นเต้น และกลัวว่าจะมีปัญหา เพราะสวนอยู่ที่บ้านคนมีไม่มาก และตอนนั้น ยังไม่รู้จังหวะรถและจังหวะการเข้าเกียร์ เลยรู้สึกกลัวนิดๆๆ แต่พอลุยปรากฏว่า ใช้ได้ แต่ส่วนมากมันเป็นแบบเดิมๆๆ นั้นคือ สโลว์ 1300 เฟืองท้าย 11/41 แรงไม่ค่อยมี แต่ก็ทดสอบไว้ก่อนว่า น่าจะต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มบ้าง
เริ่มปรับปรุงรถ
ต่อมาก็เริ่มปรับปรุงและรื้อฟื้นการซ่อมรถ ครั้งแรกลำบากมากเพราะไม่ได้ซ๋อมมานานแล้วเกือบ 20 กว่าปี หลังจากที่เรียนจบแล้วไปทำงานด้านอื่น ขนาดถอดไดว์สตาร์ท ซึ่งแค่น็อต 2 ตัว มันง่ายมาก แต่ทำอยู่นานและเหนื่อย เจ็บมือไปหมด อาจจะเป็นเพราะเครื่องมือไม่พร้อมก็ได้
สิ่งแรกที่เพิ่มเข้ามาในรถคือการ์ดกระจก ซึ่งได้มาบังเอิญ ราคาถูก มีคนที่เคยเล่นรถประเภทนี้ แบ่งขายให้ในราคา 1700 บาท ไม่ได้เห็นสภาพหรือกว่าเป็นอย่างไร แต่เขามีน้ำใจให้ ก็ตอบรับ พอได้ของมาปรากฏว่าสภาพยังดี และได้มาครบพร้อมแร็คหลังคา หากรวมกันสองรายการนี้ ไม่ต่ำกว่า 4000 บาท เลยเป็นสิ่งแรกที่เพิ่มเข้ามา หลังจากได้รถมาปีกว่า
พื้นที่สำหรับซ่อมรถและจอดรถตอนแรกๆๆ

ไม่มีที่จอดรถ เพราะมีพื้นที่บ้านไม่พอ กับไม่มีงบเพียงพอ เพราะต้องการสร้างเอง กับวางแผนไว้ว่าให้ออกมาอย่างไรเหมาะสมกับบ้านดี เลยแค่หาผ้าใบมาขึงแล้วจอดรถไว้แทน แต่ฝนตกหนักมีปัญหาเปียกหมด แม้ว่าตอนหลังจากลาดพื้นเพื่อให้ไม่เลอะ สุดท้าย ก็ต้องหากทางสร้างโรงรถ อาจจะเป็นครั้งแรกคิดว่า รถราคาถูกไว้เข้าสวนอย่างเดียวเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอใช้ไปนานๆๆ เริ่มชอบเพราะว่ามันเรียบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกลัวรถสกปรก สีถลอก ไม่ต้องห่วงรถมาก

ต่อมาเริ่มกลายเป็นสถานที่ซ่อมรถ โดยใช้แค่โต้ะกับเก้าอี้คอนกรีตในการซ่อม มันยุ่งยากมากเพราะฝนตกต้องเป็นเครื่องมือและย้ายเครื่องมือไปไว้ที่ร่ม จะสร้างเครื่องมือมากไม่ได้เพราะไม่มีที่เก็บ เลยซ่อมแบบหลบหนีฝน กับอีกอย่าง เริ่มซ่อมในสิ่งเล็กๆๆ น้อยๆๆ เพื่อทบทวนความรู้ เลยไม่ค่อยเร่งรีบเท่าไหร่ แต่ย้อนกลับมามองภาพเก่าๆๆ แล้ว กว่าจะพัฒนามาได้ถึงตอนนี้ ใช้เวลาหลายปีเหมือนกัน เพราะต้องเก็บสะสมซื้อเครื่องมือ หาไม้ เตรียมงบต่างๆๆ

หลังจากนั้น ไม่นานงานซ่อมเริ่มมีมากขึ้น และที่จอดรถก็เริ่มมีปัญหาเพราะเข้าช่วงหน้าฝน มาหลายปี สนิมทำท่า จะมีมา ประกอบกับการซ่อมรถเริ่มจำเป็นขึ้นเพราะใช้งานมากขึ้น และมีงบพอที่จะสร้างโรงจอดรถ กับเป็นที่ซ่อมได้ เลยวางแผนให้กว้างพอที่จะจอดรถ ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่พอสำหรับเก็บเครื่องมือ ในพื้นซ่อมรถ รวมทั้งพ่ื้นที่ในการเก็บอะหลั่ยเก่า เลยวางแผนการสร้างโรงรถโดยเร็ว
น่าต้องถึงเวลาสร้างโรงซ่อมรถแล้ว
เข้าหน้าฝน ในขณะเดียวกันรถใช้งานมาก ปัญหาตามมาคือระบบช่วงล่าง การซ่อมต้องนอนใต้รถ บางครั้งต้องรื้อและใช้เวลาในการซ่อมนาน หากพื้นที่ซ่อมไม่ดีคือติดพัน ปัญหาตามมามาก เลยเกิดความคิดว่า น่าต้องสร้างโรงซ่อมรถแล้ว
ภาพนี้ คือบรรยายการซ่อมรถก่อนคิดจะเปลี่ยนที่ซ๋อมรถ และทำที่จอดรถ ในภาพ จะเห็นว่ามีไอ้เรือง ตอนนี้ ไม่ทราบมันหายออกจากบ้านไปไหนแล้ว มันชอบมานอนเลนตอนซ่อมรถ ขั้นตอนนี้คือจุดเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เพราะซ่อมหัวกะโหลก หรือที่เรียก knockle steer มันต้องใช้เวลานานในการทำ เลอะเทอะ สกปรกมาก แต่งานที่ออกมาจะต้องสะอาด และการอัดจารบี ต่างๆๆ ต้องอย่างดี ความสะอาดมาอันดับหนึ่ง เครื่องไม้เครื่องมือเริ่มมาก เลยคิดว่า น่าจะต้องสร้างโรงรถแล้ว
สุดท้ายสร้างโรงรถเสร็จ แต่ที่เก็บเครื่องมือต้องปรับเปลี่ยนหลายคร้ัง


ที่ว่า โรงรถเสร็จแต่ที่เก็บเครื่องมือต้องทำหลายครั้ง เพราะเวลาทำงานจริงมีข้อผิดพลาดหลายอย่าง เลยต้องปรับเปลี่ยน สุดท้ายออกมาได้ตามที่ต้องการ
โรงรถและที่เก็บเครื่องมือล่าสุด

จะเห็นว่า ตอนนี้ สกปรกและดูคล้ายสภาพอู่ เข้าไปทุกทีเพราะเมื่อโรงซ๋อมรถเสร็จ มีการอัพเกรดรถ และทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง จนกออกมาล่าสุด
นี่คือสภาพล่าสุดของรถ ที่ผ่านการปรับแต่งมาทั้งหมด
หลังจากปรับแต่งมามาก ในส่วนสภาพภายนอก ซึ่งมันจะเกี่ยวโยงกับระบบช่างล่าง เป็นอันว่า เสร็จสิ้นเรียบร้อย แต่น่าจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติม อีกบ้าง เล็กน้อยๆๆ แต่ส่วนที่สำคัญน่าจะหมดแล้ว เพราะว่า สิ้นงบไปหลายเงินเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือไม่
