ไปหาหมอเผด็จ

ห่างหายจากการบันทึกเสียหลายวัน สาเหตุมาจากต้องเดินทางไป กทม. กลับจาก กทม.มีอาการไข้ จะว่าไข้ มันไม่น่าจะใช่ น่าจะแพ้อากาศมากกว่า  ในสภาพชีวิตปกติประจำวันตื่นเช้าขึ้นมา เจอแต่ต้นไม้ อากาศบริสุทธ์  เจอฝนตกส่วนมาก แต่อากาศมันดีสดชื่น แต่….

พอเดินทางไป กทม.เจอสภาพอากาศที่ร้อน ร่างกายปรับตัวไม่ได้ มีอาการแพ้อากาศ เมื่่อก่อนคิดว่าเป็นไข้ แต่พอไปตรวจไข้ไม่พบไข้ ความดันต่างๆๆ ปกติหมด

กลับมาบ้านนอนพักหลายวันจนร่างกายปกติ แต่ยังมีอาการเพลียบ้าง แต่ไม่มาก

สิ่งใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ หมอกำลังหาว่าทำไมโลหิตจาง  ลืมบอกหมอไปว่า พี่น้อง ญาติ เป็นกันหมดทุกคน  น่าจะเกี่ยวเนื่องกับกรรมพันธ์ หมอเลยตรวจเลือดหมด ตับ ไต ไทรอยด์ แต่ยังไม่เจอสาเหตุ มันก็ดีเป็นการเช็คร่างกายไปด้วยในตัว เจาะเลือดทุกอาทิตย์ จากเดิมที่เคยกลัวเข็ม ตอนนี้ กลับกลายเป็นเรื่องปกติ เจาะจนคนเจาะจำได้ เมื่อก่อนจะถามชื่อแล้วให้บอกนามสกุล ตอนหลังๆๆ เรียกแต่ชื่ออย่างเดียว แล้วเจาะเลย

เป้าหมาย ต้องเช็คอีกหลายอย่าง เพื่อหาสาเหตุ ถัดจากนี้ ไปส่องกล้องเพื่อหากว่าภายในระบบลำไส้ กระเพาะอาหาร มีตรงไหนบกพร่องบ้าง หลังจากนั้น น่าจะต้องต่อด้วยอุลตร้าซาวด์ต่อ

นั้นคือสิ่งที่เจอในวันนี้ หลังจากตื่นขึ้นมาแต่ตี 5 รีบเดินทางไปนคร  เพื่อไปหาหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับลำไส้ ทางเดินอาหาร ไปถึงหาที่จอดรถง่าย เพราะตรงนั้นเป็นที่ออกจากในเมืองค่อนข้างมาก และที่สำคัญสามารถจอดรถที่ Homepro แล้วเดินมาร้านหมอได้

คลีนิค เป็นลักษณะตึกแถว หน้าคลีนิคก็มีที่จอดรถได้ประมาณ 2-3 คัน หรือจะจอดตรงถนนก็ได้มีที่ว่างพอ เพราะคนมาหาไม่ค่อยมากเท่าไร อาจจะเป็นเพราะหมอเปิด 3 ห้วง คือเช้า เที่ยง เย็น แต่จำเวลาไม่ได้แล้ว ถ้าจำไม่ผิด เช้าน่าจะ 7 โมง ถึง 8 โมง แล้วก็เที่ยง แล้วก็บ่าย 4 โมง คนที่มาเลยมาไม่พร้อมกันได้

นั่งไม่นานหมอมาที่คลินิค และได้ลำดับที่ 4 ไม่นานตรวจเสร็จ หมอบอกว่าเพื่อให้แน่ใจว่าระบบปกติ แนะนำว่าให้ส่องกล้องในระบบลำไส้ เพื่อหาสาเหตุว่าทำไม่ถึงได้ปวดบริเวณลิ้นปี้  น่าจะเป็นกรดไหลย้อน

เลยตกลง และหมอให้ใบนัดพบเพื่อไปที่ รพ.มหาราช โดยให้ไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ แล้วหมอจะเป็นคนส่องกล้องเอง

ในความคิดส่วนตัวคิดว่าที่ผ่านมาร่างกายเราใช้งานมามากแล้ว น่าจะถึงเวลาตรวจร่างกายสักที เงินทองที่หามาได้ น่าจะต้องได้ใช้เพื่อการนี้ จากการวิเคราะห์แล้ว จะเห็นว่าในห้วงที่ผ่านมา เมื่อสภาพร่างกายทำไม่ดี ไม่สามารถจะดำเนินการหรือทำอะไรที่สร้างชิ้นงานได้เลย

มันน่าจะต้องถึงเวลา ฟื้นฟูร่างกาย เพื่อสร้างชิ้นงานต่างๆๆ ตามที่เราต้องการเสียแล้ว

ไม่ต้องดูอะไรมาก ขนาดเขียน Blog ยังไม่สามารถเขียนได้เต็มที่ เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เต็มร้อย กำลังหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร

ต้นตอ น่าจะมาจากสิ่งแรกสุดคือเป็นเรื่องโลหิตจาง นั้นคือสิ่งที่ได้รับจากครอบครัวฝ่ายแม่ ที่เป็นเกือบทุกคน

เอาเป็นว่า ค่อยว่าต่อกันอีกที เมื่อเดินไปไปส่องกล้อง แล้วจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง เผื่อใครหลงเข้ามาอ่าน

สรุป การไปหาหมอเผด็จ ไปหาง่ายมากเพราะอยู่ตรงสามแยกนาหลวง แต่ตอนนี้ เป็น สี่แยกนาหลวงแล้ว ที่จอดรถสะดวก แต่ค่ายาติดแพงไปนิด วันนั้นจ่ายไป 1400 กว่าบาท แต่เท่าที่ฟังมีคนบอกว่าหายส่วนมาก

แล้วค่อยมาเล่าและสรุปอาการให้ฟังอีกที