อากาศดีทั้งวัน
อากาศดีทั้งวัน
ตื่นขึ้นมาสดชื่น
เช้านี้ ตื่นขึ้นมาสดชื่น น่าจะเป็นเหมาะเมื่อคืนก่อนนอนอ่านหนังสือที่ถูกใจ เมื่อวานซื้อโดยบังเอิญ เข้าไปในสหไทย เพื่อเลือกซื้อหนังสือมาอ่าน จนได้มาเล่มหนึ่ง ก่อนนอนเลยหยิบไปอ่าน เมื่อดูหนังสือ สงสัยแล้วว่าทำไม พิมพ์ครั้งที่ 9 มันเป็นหนังสือของนิ้วกลม นักเขียนที่ค่อนข้างจะชอบและอ่านได้ของนักเขียนเมืองไทย
การอ่านหนังสือ ดูวิธีการเขียนและสิ่งที่นำเสนอ บางทีมันก็รู้แล้ว นักเขียนบางคนชอบโม้ ยกตัวเองเป็นตัวอย่าง แต่ นิ้วกลม จะไม่ค่อยมี เป็นหนังสือเชิงธรรมะแต่เขียนมาในลักษณะที่อธิบายง่าย
เจอหน้าแรกเลย พิมพ์คำว่า “สงบ” ต่อมาเรื่องความคิดหวัง คนเราส่วนมากที่ไม่มีความสุข เพราะเราคาดหวังอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หยุดคาดหวัง อยากมีรถถีบ พอได้รถถีบมีความสุข แต่พอเห็นเพื่อนมีรถยนต์ อยากได้รถยนต์มีความทุกข์ หรือคาดหวังอีก สรุปคือชอบเปรียบเทียบกับเพื่อน แล้วคาดหวังอยากได้เหมือนเพื่อน โดยเฉพาะที่โชว์ทางเฟส แล้วสร้างความคาดหวังให้ตัวเอง จนเกิดทุกข์ แปะเลย ตรงกับแนวคิดเลย
ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขียนได้ดีมาก แต่ง่วง ต้องนอนก่อน คิดว่าคืนนี้วันนี้ อ่านต่อ ประกอบกับเมื่อคนคนที่นอนข้างๆๆ เข้าใจ เลยไม่ปิดไฟ ปกติจะปิดไฟแล้วเปิดโคมไฟอ่านเพราะเกรงใจคนนอนข้าง แต่เมื่อคืนคนนอนข้าง ไม่ปิดไฟ น่าจะรู้ว่าอ่านหนังสือสะดวก เลยอ่านได้มากขึ้น
เลยหลับยาว แต่จะว่ายาวก็ไม่ได้ เพราะก่อนนอนฝนตกปร่อย ๆๆ อากาศเย็นเลยใส่เสื้อแขนยาวนอน ตกดึกร้อน เลยตื่นมานิดหนึ่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อ
เข้าสวนนิด
นั่งกินกาแฟ วางแผนกับชีวิตของตนเองว่า วันนี้จะทำอะไร ดูเวลา 05.30 น. อากาศกำลังดี บรรยาศกำลังสวย นึกถึงหนังสือของนิ้วกลมเลย
ในหนังสือบอกว่า ความสุขของเรา มันอยู่ตรงหน้าของเราเอง ไม่จำเป็นต้องหาที่ไหน จริง….
ตอนเช้านั่งกินกาแฟ ฟังเสียงธรรมชาติ อากาศบริสุทธ์ มันเป็นความโชคดีที่เกิดเป็นคนบ้านนอก ไม่ต้องได้ยินเสียงรถ จนต้องปิดหน้าต่าง นั่งได้ยินแต่เสียงนก เสียงธรรมชาติ ยิ่งตอนเที่ยงๆๆ จะได้ยินเสียงนกเขาขัน เป็นระยะ ได้แต่นั่งอวยพร อย่าให้มีมนุษย์คนไหน จับมันไปขัง เพื่อฟังเสียงมัน
ดูสภาพอากาศ ครี้ม น่าไม่ร้อน เริ่มแรกน่าจะเขียนบทความ I2 ต่อ ปรับปรุงให้อ่านง่ายขึ้น กับที่เขียนตั้งไว้แล้ว
คิดต่อว่าเขียนที่ขนำ หรือไปบ้านข้างหน้าดี อากาศไม่ร้อน หลังข้างหน้าดีกว่า ฝนตกก็ไม่มีปัญหา กินกาแฟเสร็จออกเดินทางไปบ้านหลังข้างหน้า
เปิดบ้านหลังข้างหน้า ไม่เห็นแม่ค้าขนมครกหน้าบ้าน นึกออกว่า วันนี้วันอาทิตย์ แม่ขายขายขนมครกไม่มาขาย เลยไม่ได้กลิ่นความหอมของมัน วันนี้ เลยกินแต่กาแฟอย่างเดียว
ลงมือนั่งเขียนบทความ
ในความรู้สึกตัวเอง การเขียนบทความและการใช้เครื่องมือในการทำงาน เช่นพวกพัฒนาผ่านเว็บไซต์ พวก Elementor หรืออะไรหลายๆๆ อย่างมันคล่องขึ้น เพราะงานมันสอนเรา บางทีก็ได้โดยบังเอิญ ขอบคุณ สำหรับการลงมือทำ และหนังสือดีๆๆ หลายเล่ม ที่ให้ไอเดีย แนวความคิด การสร้างสรรค์
ความรู้สึกอีกอย่างที่อ่านหนังสือมาก หลังจากเปลี่ยนอาชีพ คือมุมมองชีวิต หลายสิ่งหลายอย่างมันเปิดกว้างขึ้นมาก
เจอหนังสือเล่มหนึ่ง บอกว่า ยุคอุตสาหกรรม คนเราถูกมองเหมือนวัตถุ อ่านไปจนเกือบจบ ออ จริง บางองค์กร มีคนเก่งมาก ก่อนจะเข้ามาในองค์กรนั้นได้ ต้องมีการคัดเลือกสอบแข่งขันจากคนจำนวนมาก แต่..
พอเข้าสู่ในระบบองค์กร บุคลากร ที่มีความรู้ความสามารถแทบไม่ได้ใช้งานหรือคิดเองได้เลย เพราะคนคิดในหน่วยหนึ่งคิดเอง เออเอง ได้แค่คนเดียว เขาจะไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคลากร แต่ เขาจะมีอย่างเดียว คือประชุม แต่ต่อท้ายคำว่า สั่งการ นั้นคือการประชุม เพียงคำพูดให้สวยหรู ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากคนๆๆ เดียวที่เป็นหัวหน้าหน่วย ที่สั่งการในที่ประชุม
หรือไม่ก็ระดับรอง ลงมา แต่ ระดับรองนั้นแหละตัวดี พยายามสร้างแบรนด์ให้เขาตัวเอง คิดแต่โปรเจ็คเพื่อผลักดันตัวเองให้สู่เป้าหมายที่ต้องการ
สุดท้าย การสอบแข่งขันหรือคัดเลือก ก็เปลี่ยนประโยชน์ เพราะไม่นาน คนเก่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นหุ่นยนต์หมด มีหน้าที่อย่างเดียว รับการป้อนโปรแกรม
นั่งทำงาน หรือจะเรียกว่า อะไรก็ได้ เพราะเป็นการทำที่ไม่มีรายได้ แต่ทำเพราะอยาก Output ความรู้ของตัวเองออกมาเผื่อให้คนรุ่นหลังได้อ่าน ค้นหาในอินเตอร์เน็ตแล้ว มีคนเขียนน้อยมากหรือแทบไม่มี หากมีก็ส่วนมากบรรยายเพื่อหารายได้
จนมีเสียงหนึ่งบอกมาว่า ให้ไปดูสวนใหญ่หน่อย เมื่อวานลมพัดแรงมาก ต้นยางล้ม มีพวกจะมาขอซื้อต้นยางที่ล้ม กับพอดี สมองมันเริ่มล้าแล้ว กับอยากออกเดินทางไปเที่ยว พักผ่อน เจอสวน เจอนา เจอคน เลยหยุดเขียนบทความ แปลงร่างมุ่งหน้าไปยังสวนใหญ่
ทำภารกิจเสร็จ มอบหมายให้ลูกน้องจัดการต่อ ไหนๆๆ มาสวนแล้ว เลยขุดหน่อกล้วยไปปลูกที่สวนเล็กหน่อย เริ่มเนือย ดุเวลา เที่ยงแล้ว ขนหน่อกล้วยขึ้นรถกลับบ้าน ระหว่างทาง แวะว่าจะกินก๋วยเตียวหน่อย แต่ เพิ่งถอนฟันมา ได้แต่ทักทายแม่ค้า แล้วขับรถจากมา กินข้าวที่บ้าน
อากาศดี นั่งที่ขนำ เลยปิดคอม อัพเดทต่อ จากที่ทำเมื่อตอนเช้า
มันสนุกดี หากทำงานที่เราชอบ
เบื่อไหม
น้นคือคำถามที่ถามต้วเอง เพราะตลอดที่ผ่านมาวนเวียนแต่บ้าน สวน เขียนความ ไม่ได้ไปไหน
ลองพิเคราะห์ความรู้สึกตัวเอง แบบไม่เข้าข้างตัวเอง มีเสียงตอบมาว่าไม่เบื่อ
เพราะอะไร
การออกกำลังกาย หรือทำอะไรก็ตามที่เราทำมายาวนาน หากเราไม่หยุดหรือพัก ในสมองของเราจะมีแต่ความสับสน วิ่งตามโลก วิ่งตามกระแส ยิ่งตอนนี้ เฟส หรือสื่อต่างๆๆ มีมาก มันยิ่งให้เราชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ทั้งที่ เขาโชว์แต่ของดีๆๆ ของเขาที่มีเป้าหมายแฝงมา หากเราไม่หยุด เพื่อให้ตัวเองสงบ เราก็จะไม่พบว่าความจริงความสุขมันอยู่ตรงหน้า
หากเราหยุด เพื่อคิด เพื่อทบทวน เพื่อร่างกาย เพื่ออะไรก็ตาม แล้วเราทำในสิ่งที่เราชอบ เป้าหมายคือ สิ่งที่วางไว้ข้างหน้า
ทำเพื่อผลที่จะเกิดขึ้น
เหมือนการปลุกต้นไม้ หากเราปลูกเสร็จ พรุ่งนี้ มันโตเลย มันก็ผิดวิสัย แต่ หากเราไม่ปลูกไม่ทำ มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การเขียนความ การทำสวน สิ่งนั้นคือสิ่งที่เราใช้เวลาที่เป็นเวลาที่มีความสุข อยู่กับมัน สงบกับมัน แต่ หากทำไปสัก 5 ปี สิ่งที่ได้คือ บทความเยอะขึ้น เราเขียนเก่งขึ้น ต้นไม้ ใหญ่ขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะเป็นสิ่งสวยงามให้แก่คนรุ่นหลัง
บทความคือประสบการณ์ที่เราถ่ายทอด แม้จะไม่ได้ใช้แล้ว แต่ คนรุ่นหลังอ่านเป็นแนวทางได้
ต้นไม้ ลูกหลาน สามารถนำมาใช้ หรือพัฒนาต่อยอดได้
หากเราไม่หยุดเพื่อทำในสิ่งนี้ แล้วเราวิ่งหาแต่อดีต เพื่อให้คนยอมรับ ยกยอ ชีวิตมันก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นิ่ง เงียบ สงบ มีความสุข พัฒนาทางด้านความคิด คือการอ่านหนังสือ พัฒนาทางร่างกายคือการเข้าสวน ออกกำลังกาย และหาความสงบ อยู่กับตัวตน มอบสิ่งต่างๆๆ ให้กับสังคม โดยผ่านบทความ และต้นไม้ป่า ที่ปลูกมันพร้อมจะเป็นปอด หรือให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก
นั้นคือสิ่งที่ทำ ภายในปีนี้
ส่วนแผนรยะยาว เมื่อวางแผนระยะสั้นเสร็จ ค่อยว่ากันต่อไป
20.31 10/7/2022 เริ่มต้นเร็ว และเสร็จเร็ว วันนี้ เพื่อให้มีเวลาในการอ่านหนังสือก่อนนอนมากขึ้น
ขอบคุณ สำหรับวันดีๆๆ ที่เกิดขึ้นวันนี้ อากาศดี ได้ปลูกต้นกล้วยหลายสิบต้น เขียนบทความได้ดีขึ้น
ทอเช้าถ้าฝนตกอีก คงได้พัฒนาบทความได้ดียิ่งขึ้น
editor's pick
latest video
news via inbox
ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร