ไม่รู้ความหมาย

Last Updated: 02/12/2023By Tags:

ไม่รู้ความหมาย

เริ่มเขียน blog เพื่อให้ประหยัดพื้นที่ของ Hosting หาภาพที่เก็บไว้ใน Library เพื่อใช้เป็น Feature Image  เจอภาพที่โชว์อยู่ตอนนี้ มันเป็นภาพที่แสดงถึงอะไร ก็ไม่ทราบได้ ได้จากเว็บไซต์ของ DigitalOcean เป็นเว็บไซต์ที่ใช้บริการเก็บพื้นที่ของเว็บไซต์นี้

ผู้ให้บริการ เขาให้บริการแค่ ติดตั้ง Linux จำลองให้ แล้วเรามาติดตั้งค่าต่างๆๆ เพื่อเติม เหมือนกับว่าเรามีคอมพิวเตอร์จำลองเครื่องหนึ่งที่อยู่ระยะไกล เขาติดตั้งให้เฉพาะ Os ที่เป็น Linux ที่เหลือเรามีหน้าที่จัดการเองหมด

อาจจะยุ่งยากนิด แต่มันได้ดังใจของเรา ไม่มีหน้าคอนโซลพาเนล ในการจัดการ แต่แลกกับพื้นที่ ที่ได้มากกว่าเดิมเกือบเท่าตัวในราคาที่เท่ากันกับเช่าพื้นที่แบบสำเร็จรูปในเมืองไทย

แต่มันเสียอย่างเดียว โอนเงินด้วยธนาคารไม่ได้ต้องใช้บัตรเคดิต ในการชำระ

วันนี้ตอนเช้าฝนแล้ง แดดออกจ้า เริ่มสบายใจ ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ้าง เปลี่ยนผ้าเป็นชุดที่สามารถลุยงานได้ เปลี่ยนเสร็จหันไปมองท้องฟ้า มีเมฆ วนมารอบเต็มไปหมดทุกทิศ สักพัก โปรยปรายลงมาห่าใหญ หลังจากนั้น แล้งอีกครั้ง แล้วตกอีกครั้ง แล้งอีกครั้ง ตกอีกครั้ง (ไม่ได้พิมพ์ผิด แต่เป็นเช่่นนั้นจริงๆ  แล้งแดดออก สักพักฝนตก สลับกันไปมาทั้งวัน)

ไหนๆๆ เปลี่ยนผ้าแล้ว หันซ้ายหันขวาว่าจะทำอะไรดี  ที่ทำแล้วไม่เปียก ได้จังหวะพอดีเลย ในโรงซ่อมรถเครื่องไม้เครื่องมือรื้อตั้งไว้แล้ว หลังจากที่จะจัดโรงซ่อมรถใหม่ แต่ยังไม่ได้จัดให้เป็นระเบียบดี

ว่าแล้วลงมือ เบื้องต้นเอาเครื่องมือช่างที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่นสว่าน ลูกหมู เลือยวงเดือน ฯลฯ มาทำความสะอาด เอาลมเป่าแล้วฉีดโซเน็คทุกชิ้น ส่วนอุปกรณ์ไหนที่ใช้แบตเตอรี่ จัดการชาร์ตแบตเตอรี่แล้วถอดออกจากตัวเครื่องหมดทุกตัว เตรียมเครื่องมือไว้สำหรับเริ่มงานสร้างครัวด้วยตนเองสักหน่อย

ทำไปทำมา หมดวันพอดีในการจัดการเครื่องมือทำความสะอวด ฉีดน้ำมันทิ้งไว้เพื่อไม่ให้ขึ้นสนิมในช่วงหน้าฝน

ตอนนี้ในความคิดส่วนตัวแล้วมีงานให้ทำมาก แต่ ไม่รู้จะจับงานไหน ให้มันเป็นชิ้นเป็นอันสักชิ้น เพื่อพัฒนาฝึมือให้มีความชำนาญเฉพาะทาง รักพีเสียดายน้องตลอดเวลา

แต่มีอยู่งานหนึ่งที่วางแผนค่อนข้างลงตัว คืองานเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ นั้นคือการเขียนเว็บไซต์ จะใช้เวลาช่วงเช้า ตื่นนอนจะใช้เวลาประมาณ 2 ชม.กับช่วงหัวค่ำประมาณ 2 ชม.น่าจะพอในการพัฒนาตัวเอง

ส่วนโซเชียล ไลน์ เฟส ดู 10 นาทีตอนเช้า หลังจากนั้นว่างช่วงไหน กะเวลาไว้ไม่เกิน 2 นาทีจะวาง ส่วนมือถือเอาไว้บนบ้าน ไม่ว่าจะทำงานที่ไหนจะได้ยินเสียงของมัน หากไม่ได้ยินเสียง จะมีคนบอกเองว่ามีโทรศัพท์เข้ามา

แต่ตอนนี้ แต่ละวันแทบจะไม่มีใครโทรเข้ามาเลย น่าจะเป็นเพราะเขาไม่มีธุระอะไร แต่มันดีแล้ว ชอบ มันเป็นอิสระ เมื่อก่อนไปไหน ทำอะไร ต้องพาติดตัวตลอด ยิ่งไลน์ เปิดอ่านตลอด บางทีมันเสียเวลามากๆๆๆ

พอตัดส่วนนั้นออกไปได้ รู้สึกว่าชีวิตแบบเดิมๆๆ สมัยก่อนเริ่มกลับมาอีกครั้ง เป็นตัวของตัวเองไม่ต้องผูกมัดกับสิ่งของมากเกินไป ตอนนี้ หากจะถือไปส่วนมาถือเผื่อคนที่บ้านโทรเข้ามาเมื่อออกจากบ้านไปทำธุระ หรือเข้าสวน

มานึกดูคนเราบางครั้งหาอะไรมาผูกตัวเองมากเกินไป แล้วมักจะอ้างว่าไม่มีเวลา ทั้งที่บางทีเขาเสียเวลาไปกับอุปกรณ์ที่ติดต่อเขามากเกินไป เมื่อตัดสิ่งนั้นออกจากตัว เวลาที่เคยคิดว่าหายไป เริ่มกลับมาอีกครั้ง

เป็นอันว่าวันนี้ จัดการเรื่องเครื่องมือเสร็จ โดยมีไอ้ลาด เป็นตัวช่วยทำเฒ่า มาค่อยเล่น มาคอยทักทายตลอด บางทียังคิดว่ามันดีกว่าคนเสียอีก แม้ว่ามันจะพูดไม่ได้ แต่มันเป็นเพื่อนมานั่งข้างคอยเข้ามาชวนเล่นตลอด  มีจังหวะหนึ่ง จะเอาพวกสกรูต่างๆๆ ที่เก็บไว้เพื่อใช้งาน มาแยกโดยใส่กล่องต่างๆๆ แยกไว้

ไอ้ลาด มันเข้าใจว่า มันจะมีของกิน กระโดดไปกระโดดมาด้วยความดีใจ สุดท้ายพอมันรู้ว่ากินไม่ได้ มันกลับไปนั่งเงียบมองกล่องที่ใส่สกรู  ด้วยสายตาละห้อย

เห็นแล้วสงสาร พอจังหวะว่าง ไปซื้อนมกล่องให้มัน 2 แพ็ค แต่เป็นกล่องขนาดเล็ก แล้วใส่กล่องให้มันกิน มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แล้วสุดท้ายเข้ากรอบเดิม กินอิ่มแล้วหันกลับไปมองอีกที ไอ้ลาดหลับสนิทข้างล้อรถยนต์เรียบร้อย

มองดูนาฬิกาในรถเห็นว่ายังพอมีเวลาทำได้ต่อ แต่ ได้ยินเสียงจากในครัวเสียก่อน บอกว่ามากินข้าวได้แล้ว วางมือทุกอย่าง แล้วเดินไปล้างมือเพื่อจัดการกับอาหารมื้อค่ำ ดูเวลา บ่าย 5 โมงเย็นพอดี

กินเสร็จ มานั่งเล่นที่ขนำ พร้อมกับคิดว่า เออ ชีวิตเรียบง่าย ไม่ต้องรับภาระอะไรมาก มันดีอย่างนี้เอง ไม่ต้องมีคนบอกว่าให้ทำอย่างนั้น ให้ทำอย่างนี้

แต่คิดเองทำเองทุกอย่าง วางจังหวะการก้าวเดินของชีวิตตนเอง ด้วยการคิดเองวางแผนเอง บางทีนึกเสียดายเวลา ที่เราอยู่ในกรอบมากเกินไปจนไม่สามารถวางแผนชีวิตได้มากกว่านี้ ไม่สามารถวางแนวทางในการสร้างงานที่ยั่งยืน งานที่ไม่ต้องเกษียณ งานที่สามารถทำได้ตลอดเวลา จนร่างกายเราไม่ไหวแล้ว เราถึงจะหยุดเอง

แต่.. มาคิดดูอีกที มันดีไปอย่าง  กับที่เจอเมื่อวันก่อน เข้าไปในตลาดชะอวด แล้วเดินเล่นไปร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ พบกับเมียเจ้าของร้านที่สนิทกัน เลยถามว่าเถ้าแก่ เจ้าของร้านสบายดีใหมเป็นอย่างไรบ้าง

ได้รับคำตอบกลับมาว่า ตอนนี้ อยู่แต่ข้างบนในห้องไม่ได้ไหนเพราะป่วย

ได้ฟังแล้วสะท้อนใจวูบ  ออ เหนอ คนที่รวยที่สุดในตลาดชะอวด แต่ตอนนี้น่าจะไม่มีความสุขทั้งที่มีเงินมาก  แต่หันมามองคนแถวบ้านรุ่นราวคราวเดียวกัน แม้ไม่มีเงิน แต่ยังทำกิจกรรมกลางแจ้ง ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องอยู่กับที่หรืออยู่ในแต่ในห้อง

แม้แต่อยู่บ้านยังสามารถพบปะผู้คนมองไปไหน เจอแต่ที่โล่งกว้าง

มันน่าจะเป็นบทเรียนได้อีกอย่างว่าให้ระวังตัว และทำกิจกรรมกลางแจ้งให้มาก เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และสร้างสถานที่สำหรับไว้เดินเล่น สร้างกิจกรรมให้กับตัวเองเล็กน้อยๆๆ ในตอนเช้าตอนเย็น น่าจะดีกว่ามีเงินแต่สุดท้าย ชีวิตใช้เงินเป็นสิ่งยื้อชีวิตอย่างเดียว

บางคนอาจจะคิดว่า คนรวยทำแบบนั้นก็ได้เช่นกันหากเขาต้องการจะทำ  ใช่ทำแบบนั้นได้ แต่สภาพร่างกายต้องรับการฝึก ต้องเตรียมตัวอย่างน้อย ปี หรือสองปี กับอีกอย่าง มันต้องปรับสถานะภาพในการแต่งตัว หลายสิ่งหลายอย่าง

หากไม่ได้เตรียมร่างกายไว้ แล้วมาลุยเลยอย่างที่คนเกษียณบางคนคิด มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆๆ แต่อีกอย่างน่าจะเป็นเพราะความเป็นห่วงด้านกิจกาด้วย เลยไม่สามารถทิ้งงานในตรงนั้นได้

ชีวิตมันต้องเดิน และต้องวางแผนกันต่อไป ตามห้วงเวลาของชีวิต แต่ที่สำคัญที่สุด ย้ำอีกครั้งคือต้องมีเป้าหมาย หากไม่มีเป้าหมาย มีกิจกรรมเพื่อให้บรรลุเป้า ไม่ว่าจะรวยมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้าย ชีวิตเรามันเหมือนกับว่า เป้นคนไร้ค่า

แต่ถ้ามีเป้าหมาย เราจะไม่สนใจอะไรมาก แค่ทำกิจกรรม สร้างทักษะ ฝึกหัด เรียนรู้ เสริมประสบการณ์ สิ่งนั้นเองที่จะทำให้เรารู้ว่า ชีวิตเราไม่ไร้ค่า เพราะเรายังมีเป้าหมายที่เราต้องการ……จะทำ

news via inbox

ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร

Leave A Comment