มือถือ

Last Updated: 02/12/2023By Tags:

มือถือ

มือถือ ตอนนี้ กลายเป็นมือตั้งเสียแล้ว ตั้งแต่เปลี่ยนอาชีพ เดือนนี้ มีคนโทรหา 2 ครั้ง ปรากฏว่า ไม่ได้รับสายทั้ง 2 ครั้ง และต้องโทรกลับท้้ง 2 ครั้ง  เป็นร้านหมอฟันโทรมาเพื่อให้คอนเฟิร์มว่า สามารถไปตามนัดได้  นอกนั้น ไม่มีเสียงมือถือดัง เงียบสนิท  ส่วนมากตั้งไว้ที่ขนำแล้วมาทำงานบ้านหลังข้างหน้า  ยกมือถือขึ้นมาดู วันละไม่เกิน 3 รอบ ยกเว้นเวลาเดินทางเข้าสวน  มือถือจึงจะเป็นมือถือนิดหน่อย เผื่อทางบ้านโทรมาเมื่อออกจากบ้าน

มันเป็นความรู้สึกที่สงบ ปล่อยว่าง ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีใครโทรมาหา แล้วไม่ได้รับสาย  หรือตัองถือติดตัวตลอดเวลา เป็นการได้ปลดภาระหรือห่วง ออกจากตัวได้เป็นชิ้นที่ 2

ชิ้นแรก ipad ที่ซื้อไว้เพื่อดู โซเชียล อย่างเดียว ตอนจะซื้ออ้างเหตุผลสารพัดเพื่อเข้าข้างตนเองว่ามันมีความสำคัญ จำเป็นต้องมี จำเป็นต้องซื้อ  แต่ตอนนี้ แทบไม่ได้จับ  ใช้ App ธนาคารอย่างเดียวเพื่อความสะดวกในการโอนเงินให้ลูกเมื่อลูกขอ สามารถโอนได้ทันที เพื่อแสดงให้ลูกเห็นว่า ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด นอกนั้นก็แทบจะไม่ได้ใช้อะไรเลย

ถามว่า มีความรู้สึกอย่างไรบ้างที่เมื่อก่อนมีคนโทรเข้าหา  คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ตอนนี้ แทบไม่ได้ยินเสียงมือถือดัง กับบางที  บางคนโทรหาก็ไม่รับสายเสียแล้ว หลังจากเปลี่ยนอาชีพ

ตอบตามความจริงว่า มันดีสำหรับตัวเองมาก แต่กลัวอย่างเดียว กลัวว่าจะกลายเป็นเราตัดคนอื่น

แต่กรณีที่ไม่มีใครโทรหา โทรคุย มันก็เป็นเรื่องปกติ

เมื่อไม่ได้อยู่ในสายงานเดียวกันแล้ว ธุระต่างๆๆ ก็ไม่มีอะไร เลยไม่รู้จะคุยอะไร   บางคนอาจจะคิดว่า เมื่อก่อนเคยเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ คนให้ความสำคัญ แต่มาตอนนี้ แทบไม่มีใครรู้จัก ถ้าคิดแบบนั้นปวดหัวตาย อย่างที่บอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องปกติ

ทุกคนก็จะต้องเจอ เพียงแต่ว่าจะเจอเร็วหรือช้าแค่นั้นเอง

บางคนรู้ทั้งรู้ แต่พยายามหลอกตัวเอง หรือไม่ก็ไม่ได้เตรียมตัวคิดว่าเวลายังอีกนาน แต่เข็มเวลาเดินตลอด เมื่อถึงเวลาที่เขากำหนด พยายามดิ้นหรือไม่ก็พยายามกลับมาให้เหมือน บางคนสลัดทิ้งอดีตไม่ได้ อดีตก็ตามมาหลอกหลอนไมมีความสุข

แต่ถ้าเรารู้ทัน และคิดว่าพอแล้ว หยุด หรือรู้ว่าเวลานั้น มันต้องมาถึงแล้วเตรียมตัว ปรับร่างกาย ปรับความคิด ปรับทัศนคติ  มันจะทำให้เราไม่เจ็บปวด สิ่งที่เจอคือความสุข  มันมีตัวอย่างให้เห็นมามาก  เป็นบทเรียนที่ให้เราได้คิดได้ศึกษา ว่าสิ่งไหน ที่เราคิดว่า น่าจะพอและหยุด แต่ก็มีบางคนที่เพราะภาระหน้าที่ เลยต้องทำต่อ แต่ถ้าได้เตรียมตัวและรู้เท่าทันตลอด คนแบบนี้จะไม่ค่อยไม่ค่อยมีปัญหา

การลงจากเวทีอะไรก็ตาม มันเป็นเรื่องปกติ ต้องรู้ให้ทัน ต้องรู้ตัว  เมื่อลงจากเวที เปลี่ยนบทบาทตัวเอง ก็ต้องพัฒนาตัวเอง เตรียมตัวได้อยู่กับตัวเอง เพื่อจะได้ขึ้นอีกเวที หากเราต้องการขึ้น

ในใจคิดอีกที ก็หนีจากตรงนั้นมาแล้ว ปล้ำตัวทำไม ให้วงจรชีวิตกลับไปรูปเดิม

มีโลกใหม่ โลกส่วนตัวของเรา ได้ออกกำลังกายจากการทำสวน ดูสิ่งต่างๆที่เราทำมาเติบโต ได้หยุดอยู่กับตัวเอง อ่านหนังสือ แล้วจะดิ้นรนกลับไปยังสภาพแบบเดิมทำไม

ประตูหนึ่งปิดแล้ว บทบาทต่างๆๆ ก็ปิดไปแล้ว หากจะกลับไปเปิดประตูเดิมอีก ทั้งที่เราปิดมันเอง แล้วเราจะกลับไปทำไม

ประตูบานใหม่ที่เราเปิด มันเป็นประตูสำหรับพักผ่อน ได้คิด ได้วางรากฐานให้กับชีวิตที่เราเห็นแล้ว ต่อจากนี้ เราไม่ใช่วัตถุที่เขามองมา

ตอนนี้ คิดเอง ทำเอง อาจจะใช้เวลาบ้างในการพัฒนา ในการปรับแนวคิด ปรับเวลา ปรับบทบาท

มือถือก็เลยกลายเป็นมือตั้งแทน ตอนนี้

ได้ให้ วันนี้

ขณะเขียนบทความ i2 เกี่ยวกับเรื่องการค้นหาข้อความกับการหาความเชื่อมต่อในเครือข่าย เพื่ออยากให้ชัดว่า การค้นหาข้อความคือการค้น ตัวอักษร ตัวเลขหรือข้อความ มันแตกต่างกับการค้นหาอีกแบบคือการค้นหาเครือข่าย การค้นหาในเครือข่ายค้นหา เกี่ยวกับการเชื่อมต่อว่า มีการเชื่อมกันเป็นกลุ่มคือไม่ หากกลุ่มใหนมีการเชื่อมต่อกันเป็นกลุ่มแล้วเชื่อมต่อกันมาก มันคลัสเตอร์  การหาการเชื่อมต่อระหว่าง 2 รายการ หรือดูว่ารายการเดี่ยวที่เราเลือกมีรายใดมาเชื่อมต่อบ้าง

ทำมานาน แต่เพิ่งรู้วันนี้ ว่าเป้าหมายของการค้นหา 2 อย่างมันแตกต่างกัน

ขณะทำบทความเห็น คนขับรถพ่วง(รถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง) มาสองคนหญิงกับชาย และในรถที่ของเก่า เต็มไปหมด คิดว่าน่าจะเก็บของเก่าเพื่อไปขาย

ตัดสินใจหยุดทำบทความแล้ว ตะโกนถาม พร้อมกับบอกว่า ที่บ้านมีขวดน้ำที่กินแล้ว เก็บไว้เยอะมาก ให้เอาไปขาย คือให้ฟรี  ๆๆ ดูท่าทางเขาพอใจและดีใจมาก

ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรหรอก บางครั้งรายจ่ายรายรับเดือนชนเดือน แต่ดูแล้วเขาน่าจะลำบากกว่าเรา หากเราทิ้งกองขยะ ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร จะขายเอง ก็ไม่รู้ขายที่ไหน จะขายเขา ก็มาคิดดู ระหว่างเรากับเขา หากให้เขาทั้งหมด เขาน่าจะขายแล้วมีรายได้เข้าตัวเขา มากกว่า

ระหว่างเงินที่เราได้มา กับเห็นเขามีความสุข  อย่างหลังน่าจะดีกว่ามาก ไม่ใช่เป็นคนร่ำรวยอะไร แต่คิดว่า หากเราได้มาก็จ่ายไม่คุ้มค่า เท่ากับที่เขาจ่าย

วันนี้ เลยรู้สึกมีความสุข  เพราะคิดว่า การให้ หากให้แล้ว  ก็แล้วกันไป หากเราให้ แล้วคิดว่า เขาต้องมาซูฮกเรา ต้องตอบแทนเรา หรืออะไรก็ตามที่คิดว่า ให้เขาแล้วมันจะต้องมีอะไรกลับมาหาเรา นั้นคือ…..การทำธุรกิจ มันไม่ใช่การให้  เราก็จะไม่พบความสุขจริงๆๆ

แต่หากให้ไปแล้ว หมดกันแค่ให้ มันดีกว่ามาก อย่างวันนี้ คนที่ให้ไป ไม่ได้รู้จักแต่อย่างใด คิดว่าให้เสร็จก็เสร็จกันไป แต่รายนี้ น่าจะไม่ใช่แบบนั้น เพราะนัดเขาไว้ว่า อาทิตย์ละครั้ง ให้เขามาเองของเก่าที่บ้านไปขาย  วันนี้ เขาพารถพ่วงมาเลยบรรทุกไม่หมด  กับอีกอย่างที่บ้านซื้อน้ำกินเป็นขวด เลยมีขวดน้ำเยอะ สิ่งที่เราได้คือไม่ต้องทิ้งอย่างไร้ค่า แต่มีคนสามารถเอาตรงนั้นไปเพื่อให้เขามีรายได้

ลองให้ แล้วอย่าคิดว่าเขาจะให้อะไรเรากลับ ความรู้สึกมันเป็นสิ่งที่บอกมาเป็นตัวอักษรหรือบรรยายไม่ได้

ที่เล่ามาไม่ใช่เพืออวดความดี ว่าเป็นคนดี แต่เล่าให้ฟังว่า การให้แล้วจะมีความรู้สึกอย่างไร

มันแตกต่างกับการให้แล้วยกมือท้วมหัว เพื่อขอให้ได้ขึ้นสวรรค์หรือได้บุญ อันนั้นคือการให้เพราะถูกสอนมา ให้แล้วเราจะได้สิ่งตอบแทนกลับมาคือบุญ กับได้ขึ้นสวรรค์ ความรู้สึกนั้นแตกต่างกับการที่เราให้แล้ว ก็เสร็จกันใป ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้องกันอีก หากเขานึกถึงบ้าง คิดเสียว่า อันนั้นคือกำไร

สิ่งที่สร้างความสุขให้กับตัวเองในวันนี้

เช้าวันนี้ เดินตามแปลนที่วางไว้ตามปกติ แต่มันติดขัดนิด ตรงที่ว่าวันนี้ หลังเที่ยง นอนหลับซะ ชั่วโมงกว่า และเป็นการหลับอย่างชนิดที่ว่า ทุ่มตัว นานแล้วที่ไม่ได้หลับแบบนี้  อาจจะเป็นเพราะตอนเช้าต้องแปลอังกฤษ มากไปหน่อย

ตื่นขึ้นมา รู้สึกเนือยนิดหน่อย แสดงว่า น่าจะได้เวลาไปสวนแล้ว  ก่อนเข้าสวน ส่วนมากมักจะหาอะไรรองท้องก่อน กลับจากสวน บางที หากยังอิ่มอยู่ก็ไม่ต้องกินอะไร แล้วแต่ว่าแต่ละวันกับอาหารรองท้องขนาดใหน

เดินไปริมคลอง (ก็ครัวนั้นแหละ คนที่บ้านซื้อของเตรียมไว้ให้แล้ว เป็นรู้กันว่า เวลา 15.30 น.จะต้องเตรียมตัวเพื่อเข้าสวน)

เหตุผลที่เข้าสวนเล็ก มีเหตุผลหลักคือใกล้บ้าน ได้ออกกำลังกาย กับเป็นห่วงไอ้ขาว หมาจรจร  หากไม่ไปสวน วันไหน แสดงว่า วันไอ้ขาวไม่อิ่ม ซื้ออาหารสำหรับหมาติดรถไว้เลย เมื่อก่อนลืมบ้าง ไอ้ขาวมันจะเฝ้าไม่ยอมไปไหน จนกว่ามันจะได้กิน สงสารมัน เลยซื้ออาหารหมาติดรถให้มันได้กิน  หากมันเห็นรถเข้าสวน ไม่ว่ามันจะอยู่ทีไหน มันจะวิ่งมาหาทันที หากมันได้กินแล้วไม่อิ่ม มันจะนอนรอ ตรงนั้นไม่ไปไหน แต่หากมันอิ่มแล้วมันจะวิ่งออกเดินทาง ดูท่าทางแล้วมันสบายใจ

เข้าสวนวันนี้ ฝนตกพื้นเลยเปียกและคิดว่า น่าจะไม่ทำอะไรมาก แค่มาผ่อนคลาย ดูลมพัด ดูบรรยายกาศ ได้อยู่ในโลกส่วนตัว โลกที่วางแผนว่าจะทำอย่างน้้น จะทำอย่างนี้ แปลนน่าจะพัฒนาตรงไหน ทำอย่างไร แม้ว่า ยังไม่ได้ลงมือ เนื่องจากมีแปลนงานด้านอื่นก่อนที่ต้องทำให้เสร็จภายในปีนี้

ได้นั่งมองวางแผน เขียนไว้ในกระดาษบ้าง เขียนไว้ในความคิดบ้าง เก็บข้อมูลไว้ในเว็บบ้าง(อย่างแบบบ้านหรือขนำสำหรับสร้าง เพราะคิดว่า แก่ตัวทำอะไรไม่ไหว อาจจะมาพักตรงนี้ หลังจากนี้ ต้นไม้น่าจะใหญ่โต และคงร่มรื่น อากาศ คงไม่ร้อนทั้งวัน เมื่อทำอะไรไม่ไหว คงจะอ่านหนังสือแล้วออกกำลังกายเล็กๆๆ น้อยๆๆ โดยเดินเล่นในสวน 7 ไร่ ที่วางแผนทางเดิน ทางวิ่งของรถ ลานสำหรับนั่งเล่น พื้นทีสำหรับยกขนำ หรือบ้านหลังเล็ก พื้นที่กว้าง สำหรับให้มองแล้วสบายตา  ส่วนเรื่องการตัดหญ้า คิดว่า น่าจะซื้อวัว ที่แก่ ๆ ที่ไม่มีคุณค่า สำหรับคนอื่นแล้วมาเลี้ยงให้มันกินหญ้า และปล่อยให้มันมีชีวิตอิสระภายในสวน )

พื้นที่เปียกมากคิดว่าทำอะไร ไม่ได้ แต่มันก็มีงานจนได้แหละ พบว่า เมื่อเดินแล้วดินติดเท้า หญ้ายังไม่ขึ้นเท่าไร กับมีรอยน้ำไหลจากที่ถม พาดินลงมาด้วย

จัดการขุดหญ้า  มาปลูกในพื้นที่ถมใหม่  ได้เหงื่อจนได้  มองไปข้างหน้าสวนเห็น สองผัวเมียยังวัยรุ่นมาตัดหญ้าให้วัว ได้แต่ถอนหายใจ ชีวิต หากไม่เตรียมพร้อมตั้งแต่เด็กหรือ หากสิ่งเร้ากับการตอบสนอง มีห้วงเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป บางคนชีวิต จะดำเนินไปตามที่เขาเรียกว่าไม่มีทิศ หรืออะไรหลายอย่าง

มองเวลา 21.10 น.13/7/2022  น่าจะต้องหยุดอ่านหนังสือก่อน เท่าที่สังเกตุดูเมื่อจะอ้างอะไรจากหนังจะไม่สามารถรีวิวหรืออ้างได้ถูกต้องเท่าไร แสดงว่ายังอ่านหนังสือได้ไม่มากพอ

วันนี้ น่าจะเปลี่ยนหนังสือก่อนนอน เล่มที่อ่านเมื่อคืนตัวอักษรเล็กเกินไป ขนาดตัวอักษรเล็กแต่ความหนาของหนังสือยังหนามาก  ผู้เขียนใช้เวลา 5 ปี ในการเขียน ไอ้เราเองก็อ่าน เกือบเดือนแล้ว ยังไมได้ครึ่งเล่ม

เมื่อวานก็สั่งซื้อมาอีกสองเล่ม แต่ยังไม่ถึง พรุ่งนี้น่ามาถึง

กับลูกสาว มาบ้านวันนี้ น่าจะไปคุยกับลูกหน่อย

ขอบคุณสำหรับวันดี อีกวันที่ได้ให้สิ่งของแก่คนอื่น และสร้างบทความได้มากวันนี้

21.14 น.วันที่ ตามหน้าเว็บ 13/7/2022

news via inbox

ต้องการรับข้อมูลข่าวสาร

Leave A Comment